Page 386 - kpi15476
P. 386

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   3 5


                                    เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำราราชานุภาพ สมเด็จฯ
                                    กรมพระจันทบุรีนฤนาถ สภาที่ปรึกษาชุดดังกล่าวนั้นมีหน้าที่พิจารณาข้อเสนอแนะ

                                    ของกระทรวงต่างๆ และควบคุมแก้ไขปัญหาที่คณะรัฐมนตรีเสนอมา พระองค์เอง
                                    ทรงเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณา แต่ในหลายๆ กรณีก็มีความ
                                    ขัดแย้งกันระหว่างกระทรวง จึงทรงกำหนดให้สภาอภิรัฐมนตรีประชุมอภิปราย

                                    พิจารณาเรื่องต่างๆนั้น ต่อพระพักตร์พระองค์เป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่จะทรงตัดสินใจ
                                    เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ


                                ข) สภาองคมนตรี ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และที่ 6 ในสมัยรัชกาลที่ 7 ทรงตั้ง
                                    ขึ้นเพื่อเป็นเครื่อง “เหนี่ยวรั้งการใช้พระราชอำนาจในทางที่ผิด” ช่วยทำหน้าที่

                                    บริหารประเทศ คล้ายกับรัฐสภาในปัจจุบัน สมาชิกประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ
                                    มีความสามารถเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ทำหน้าที่เสนอความคิดเห็นในเรื่อง

                                    ราชการแผ่นดิน วินิจฉัยเรื่องต่างๆ ที่ทรงปรึกษา

                                ค) เสนาบดีสภา หรือสภาคณะรัฐมนตรีซึ่งเคยมีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แต่ไม่มีบทบาท

                                    มากนัก ในสมัยรัชกาลที่ 7 ทรงกำหนดให้สภานี้ร่วมกำหนดนโยบายระหว่าง
                                    กระทรวงก่อนที่จะนำไปปฏิบัติ  ประกอบด้วยเสนาบดีประจำกระทรวง


                                 ง) สภาป้องกันพระราชอาณาจักร ทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับกระทรวง
                                    ต่างๆ คือ กระทรวงกลาโหม ทหารเรือ ต่างประเทศ มหาดไทย และพาณิชย์ เพื่อ

                                    ป้องกันประเทศ


                                จ) สภาการคลัง มีหน้าตรวจตรางบประมาณแผ่นดินโดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤติ
                                    เศรษฐกิจการคลังทั่วโลก และเพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์การเงินของประเทศ


                        3.1.3.  ทรงเปิดให้มีเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความคิดเห็นเสรี (Free flow
                                of information and ideas) ที่กว้างขวางมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ทรงครองราชย์นั้น

                                แรกๆ ทรงสนับสนุนหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ช่วยเผยแพร่นโยบายของรัฐบาลดังที่ได้เคย
                                ปฏิบัติมาในรัชกาลก่อนๆ แต่ต่อมาได้ทรงให้ยกเลิกการสนับสนุนดังกล่าวเสียเพราะ
                                เห็นว่าไม่สามารถจะสนับสนุนหนังสือพิมพ์ได้ทั่วถึงทุกฉบับ จึงดูจะเป็นการเลือกปฏิบัติ

                                ที่ไม่เป็นธรรม ในขณะเดียวกันก็ทรงไม่จำกัดหรือกีดกันไม่ให้มีหนังสือพิมพ์ทั้งรายวัน
                                และรายสัปดาห์เกิดเพิ่มขึ้นใหม่มากมาย แม้ว่าอาจจะมีผลต่อมติมหาชนในสมัยนั้นอยู่

                                ไม่น้อย แต่ก็ทรงอนุญาตเพื่อให้มีการแสดงความคิดเห็นจากมุมมองที่หลากหลายของ
                                สังคม


                                หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยนั้นได้มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเพิ่มปริมาณมากขึ้น
                                จนเป็นธุรกิจการหนังสือพิมพ์อย่างแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ 6 หนังสือที่มีจำนวนมาก

                                นั้น ในความเป็นจริงก็ช่วยส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตามอัธยาศัยให้แก่คนไทยได้          เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย
                                อย่างมากด้วย เพราะในยุคนั้นการศึกษาประชาบาลเริ่มต้นแล้ว และหาก ผู้คนเรียน
   381   382   383   384   385   386   387   388   389   390   391