Page 393 - kpi15476
P. 393
392 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
ฝึกอบรมครูและยังโปรดให้วางระเบียบและหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนทุนเล่าเรียน
หลวงเสียใหม่ให้เหมาะสมขึ้น
ฉ) ทรงตราพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2471 ซึ่งรวมข้าราชการครู
ที่สอนอยู่ตามโรงเรียนรัฐบาล ให้ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
ฉ) ทรงให้ปรับปรุงการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหลักสูตรปริญญา โดยมีที่
ปรึกษาด้านนี้ คือ พระองค์เจ้าธานีนวัติ รัฐมนตรีกระทรวงธรรมการ สมเด็จกรมหลวง
สงขลานครินทร์ พระบรมราชชนกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 และที่ 9
และพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่อีก 3 พระองค์ โดยเฉพาะในการเปิดสอนระดับปริญญาตรี
สาขาแพทย์ วิศวกรและวิทยาศาสตร์ เปิดรับทั้งนักเรียนชายและหญิง มีนิสิตหญิง
เข้าศึกษาด้วยจำนวนมาก และมีนิสิตหญิงจบแพทยศาสตร์เป็นรุ่นแรกด้วย ในการนี้
ทรงสานต่อจากสมัยรัชกาลที่ 6 ที่โปรดให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสงขลา
นครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก) ทรงเป็น
หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการติดต่อขอความร่วมมือจากมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์เพื่อ
ปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2465 (ค.ศ.
1922)
ในรัชกาลที่ 7 นี้ ทรงตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ และทรงมีพระราชดำริ
ที่จะให้มหาวิทยาลัยเป็นองค์กรอิสระอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะอภิรัฐมนตรี
โดยตรงด้วย ทรงพระราชทานทุนส่วนพระองค์สนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
และได้เสด็จไปพระราชทานปริญญาผู้จบการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อ
วันที่ 25 ตุลาคมในปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ.1930) นับเป็นการพระราชทานปริญญาครั้ง
แรกแห่งกรุงสยาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานรางวัลเหรียญทองและ
เหรียญเงินสำหรับผู้ได้คะแนนยอดเยี่ยมตลอดหลักสูตร 4 ปี เหรียญทองแดงสำหรับ
ผู้ได้คะแนนเป็นที่ 1 ในแผนกอายุรศาสตร์ แผนกศัลยศาสตร์ แผนกสูติศาสตร์ แผนก
พยาธิวิทยา แผนกสรีรวิทยา และแผนกกายวิภาควิทยา ทั้งในปี พ.ศ. 2471 และ ปี
2472 เนื่องจากมีผู้สำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2471 จำนวนเพียง 18 คน และใน พ.ศ.
2472 จำนวน 16 คน รวมทั้งสิ้นเป็นเวชชบัณฑิต (แพทยศาสตร์บัณฑิตในปัจจุบัน)
34 คน
ช) เสด็จไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ ในโอกาสเสด็จไปเยี่ยมเยียนราษฎรในต่างจังหวัด ในการ
เสด็จเยี่ยมเยียนจังหวัดต่างๆ ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้นั้น ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย กับตัวเราด้วย” ..แต่ในขณะเดียวกันก็ทรงสนพระทัยที่จะเสด็จเยี่ยมโรงเรียน หรือคอย
“เพื่อจะได้รู้เห็นด้วยตนเองซึ่งกิจการแลภูมิสถานบ้านเมืองกับทั้งความสุขความทุกข์
ของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินแลเชื่อใจว่าคงเป็นความยินดีของพศกนิกรที่จะได้พบเห็นคุ้นเคย
สังเกตโรงเรียนที่ตั้งอยู่ตามตำบลบนเส้นทางเสด็จผ่าน เพราะ ...”สิ่งที่ต้องตาเรามาก
ที่สุดก็คือได้เห็นเด็กลูกเสือแลนักเรียนทั้งหญิงชายมีจำนวนมากแลมีโรงเรียน
