Page 397 - kpi15476
P. 397
39 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
5 พระองค์ในกรมพระนครสวรรค์ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 7 ได้ช่วยกันค้นหาต้นลายพระราชหัตถเลขาซึ่งกระจัดกระจายหายไปเพราะ
เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในวังต่างๆ เมื่อได้ต้นฉบับก็นำมามาตรวจตราและจัดพิมพ์
จำนวน 3,500 เล่ม โดยได้ทรงเล่าเรื่อง “วันยูนิเวอร์ซิตี้” นี้ไว้ในคำนำของหนังสือที่ทรง
ลงพระนามพร้อมกันทั้ง 5 พระองค์ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในวันที่อัญเชิญพระบรมอัฐิ
เสด็จนิวัติพระนครเป็นครั้งสุดท้าย
3.3. การสร้างพื้นฐานสังคมในด้านวัฒนธรรม
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดงานด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นส่วนพระองค์ ทรงมี
พื้นพระราชนิสัยโปรดการเล่นดนตรีมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนในอังกฤษ ดังที่พระอาจารย์ที่อีตัน
มีบันทึกรายงานไว้ เมื่อกลับมาจากอังกฤษก็ได้ทรงศึกษาการบรรเลงซออู้และซอด้วง โปรดให้
สมเด็จพระนางรำไพพรรณีและข้าราชบริพารในวังสุโขทัยร่วมวงเล่นด้วย สมเด็จกรมพระนคร
สวรรค์วรพินิตแห่งวังบางขุนพรหมนั้นได้ชื่อว่าเป็นวังที่มีคณะนักดนตรีไทยฝีมือเยี่ยมมากที่สุด
ซึ่งทรงสนิทสนมคุ้นเคยด้วยเนื่องจากเป็นพระเชษฐาองค์ใหญ่ต่างพระราชมารดาและเป็น
อภิรัฐมนตรีที่โปรดให้รักษาพระนครแทนเมื่อเสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศ เมื่อมีการยุบกอง
สังคีตสังกัดสำนักพระราชวังเมื่อครั้งเศรษฐกิจตกต่ำก็ได้ทรงรับนักดนตรีจากที่นั่นมาทำงานดนตรี
ที่วังสุโขทัย โปรดให้ นำเพลงชุดโหมโรงต่างๆ โดยเฉพาะโหมโรงปี่พาทย์โบราณ มาจัดทำ
โน้ตสากลไว้ ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไทยเดิมไว้สองสามเพลงโดยดัดแปลงจากทำนองเดิม เช่น
ราตรีประดับดาว และเขมรลออองค์ เป็นต้น
แต่ผลงานในนับว่าเป็นการเสริมสร้างพื้นฐานสังคมในด้านวัฒนธรรมที่สำคัญในสมัยรัชกาล
ที่ 7 นั้น ได้แก่ การตราพระราชบัญญัติต่างๆ ที่มีความก้าวหน้า ทันสมัย ที่ทำให้การดำเนินการ
ด้านวัฒนธรรมของไทยในหลายด้าน มีความเป็นสากลมากขึ้นหรือสอดคล้องกับมาตรฐาน
กฎหมายด้านวัฒนธรรมของโลก ทั้งนี้เนื่องจากหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแล้ว ประเทศไทยได้เข้า
เป็นภาคีขององค์การระหว่างประเทศและภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศในด้านวัฒนธรรมหลาย
ด้าน จึงต้องมีการแก้ไขกฎหมาย หรือตรากฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกัน ซึ่งพระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เร่งรัดให้ฝ่ายกฎหมายของพระองค์ดำเนินการให้เรียบร้อย กฎหมายที่
ออกมาในรัชกาลที่7 ที่สำคัญด้านวัฒนธรรม มีดังนี้
3.3.1 พระราชบัญญัติว่าด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) กิจการ
ด้านพิพิธภัณฑ์ของไทยได้เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาใน
สมัยรัชกาลที่ 5 และที่ 6 ต่อมาในรัชกาลที่ 7 ได้จัดตั้งขึ้นเป็น “พิพิธภัณฑสถาน
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย พระราชประสงค์จะทรงบำรุงพิพิธภัณฑสถานให้สมเกียรติประเทศไทย จึงโปรดเกล้าฯ
สำหรับพระนคร” โดยได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร
พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) ประกาศเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2469 ทั้งนี้ทรงมี
ให้รวมการพิพิธภัณฑสถานเข้ากับหอพระสมุดสำหรับพระนคร ขึ้นเป็น “ราชบัณ-
ฑิตยสภา” และพระราชทานที่พระราชมนเทียรสถาน ตลอดทั้งบริเวณพระราชวังบวรฯ