Page 399 - kpi15476
P. 399
39 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
ต่อมาในปีพุทธศักราช 2444 มีการออกพระราชบัญญัติให้ความคุ้มครองลิขสิทธิ์แก่
ประชาชน เป็นการทั่วไป เพราะประกาศหอพระสมุดวชิรญาณนั้นไม่อาจใช้กับหนังสือ
อื่นๆได้ เรียกว่า “พระราชบัญญัติกรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ ร.ศ. 120” (พ.ศ. 2444)
เพื่อคุ้มครองและป้องกัน ผลประโยชน์ของผู้แต่งหนังสือโดยยึดถือตามกฎหมายของ
ประเทศอังกฤษในสมัยแรกๆ เป็นแบบ โดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับผู้มีกรรมสิทธิ์ใน
หนังสือเหมือนทรัพย์สินอย่างหนึ่งให้มีอำนาจที่จะพิมพ์ คัด แปล จำหน่ายหรือขาย
หนังสือ ที่ตนมีกรรมสิทธิ์นั้นได้แต่ผู้เดียว สาหรับผู้ที่จะได้กรรมสิทธิ์ใน หนังสือจะต้อง
นำมาให้เจ้าพนักงานจดลงทะเบียนภายใน 12 เดือน นับแต่ได้พิมพ์จำหน่าย ส่วน
รายละเอียดและวิธีการจดทะเบียนไม่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเนื้อหาของพระราชบัญญัติฉบับนี้
แม้ให้การคุ้มครองลิขสิทธิ์ในลักษณะทั่วไป แต่ก็จำกัดอยู่เฉพาะในงานหนังสือเท่านั้น
มิได้ให้ลิขสิทธิ์แก่ งานวรรณกรรมหรือศิลปกรรมอื่นๆ ด้วย ทั้งยังจำกัดให้ลิขสิทธิ์
เฉพาะหนังสือที่พิมพ์ขึ้นในราชอาณาจักรเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์จะเป็นความ
ผิดทางแพ่งเท่านั้นไม่มีความผิดทาง อาญา
ต่อมาในปีพุทธศักราช 2457 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2457 ได้มีการประกาศใช้
“พระราชบัญญัติ แก้ไขพระราชบัญญัติกรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ พ.ศ. 2457” เพื่อแก้ไข
และขยายความคุ้มครองไปถึง บรรดาครู ผู้แสดงปาฐกถา ผู้แต่งเรื่องราวต่างๆ
พระราชบัญญัติออกมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7)
มีหลักการสำคัญอยู่ 4 ประการคือ
(1) การเพิ่มประเภทสิ่งที่ได้รับความคุ้มครอง โดยขยายขอบเขตให้ครอบคลุมงาน
วรรณกรรม และศิลปกรรมซึ่งหมายรวมถึงการทำขึ้นทุกชนิดในแผนกวรรณคดี
แผนกวิทยาศาสตร์ และแผนกศิลปะ มิได้จำกัดอยู่เพียงหนังสือเท่านั้น
(2) การคุ้มครองงานอันมีลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ
(3) การยกเลิกแบบพิธีการได้รับความคุ้มครองเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของ
พระราช บัญญัติแก้ไขกรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ พ.ศ. 2457 ที่ให้ความคุ้มครองโดย
ไม่ต้องไปจดทะเบียนหรือ แสดงข้อความสงวนลิขสิทธิ์ไว้แต่อย่างใดการกำหนดโทษ
ทางอาญา โดยบัญญัติว่าการกระทำอันเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็น ความ
ผิดทางอาญาด้วย และปรากฏต่อมาว่าเป็นสภาพบังคับที่ทำให้พระราชบัญญัติฉบับ
นี้มีผลจึงอาจกล่าวได้ว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายลิขสิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ฉบับแรกของ ประเทศไทย เพราะได้ขยายความคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม
เกือบทุกประเภท รวมทั้ง วรรณกรรมและศิลปกรรมที่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของ
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย (4) พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ. 2474 ใช้บังคับมาเป็น
ต่างประเทศอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีการกำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้กระทำละเมิด
ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยจงใจไว้เป็นครั้งแรก
เวลา 47 ปี จึง ได้มีการเสนอให้แก้ไขปรับปรุง จนเมื่อปี พ .ศ. 2521 ได้มีการ
ประกาศใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ ชื่อว่า “พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521” และ
ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ. 2474 โดยสิ้นเชิง