Page 400 - kpi15476
P. 400

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   399


                        3.3.4. พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช 2474 ซึ่งมิได้บัญญัติถึงว่าห้ามการรับ
                                จดทะเบียนเครื่องหมายที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป

                                ไว้เลย ดังนั้นจึงต้องถือเอามาตรา 5 ที่บัญญัติว่า ในเครื่องหมายการค้าหรือส่วนแห่ง
                                เครื่องหมายการค้านั้น ท่านห้ามมิให้ใช้เครื่องหมายอย่างใดๆ อันขัดต่อรัฐประศาสโนบาย
                                หรือศีลธรรม มาใช้ในการปฏิเสธการรับจดทะเบียน ซึ่งแม้จะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ตาม

                                ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาและคำวินิจฉัยคณะกรรมการเครื่องหมาย
                                การค้าไว้หลายเรื่องด้วยกัน


                        3.3.5. โดยโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะผัวเมีย
                                พ.ศ.2473 และ ทรงริเริ่มให้มีการจดทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนรับรองบุตร

                                อันเป็นการปลูกฝังค่านิยมใหม่ทีละน้อยตามความสมัครใจ นอกจากนี้ยังทรงปฏิบัติตน
                                เป็นแบบอย่างโดยมีพระบรมราชินีเพียงพระองค์เดียว และไม่มีสนมนางในใดๆ ทั้งสิ้น


                        3.3.6.  โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะผัวเมีย พ.ศ.2473
                                ใช้เวลานานถึงสองปีกว่าจะมีผลบังคับเพราะทรงตระหนักว่าจะมีผลกระทบกระเทือน

                                ประเพณีไทยที่มีมาแต่เดิม จึงทรงใช้วิธีให้เวลาในการสร้างความเข้าใจก่อน พระราช
                                บัญญัติฉบับนี้ระบุให้มีการจดทะเบียนสมรส จดทะเบียนหย่า และจดทะเบียนรับรอง

                                บุตร เพื่อทดแทนธรรมเนียมดั้งเดิมเป็นครั้งแรกในสังคมไทย นอกจากนี้ พระองค์เอง
                                ก็ทรงเป็นแบบอย่างในการสร้างค่านิยมให้ชายไทยมีภรรยาเพียงคนเดียว โดยมี


                            พระบรมราชินีเพียงพระองค์เดียว และไม่มีสนมนางในใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลง
                      รูปแบบของสังคมไทยแต่โบราณ ทรงอภิเษกสมรสโดยมีการจดทะเบียนสมรสด้วย อันเป็นการ

                      ปลูกฝังค่านิยมใหม่ทีละน้อย ทั้งนี้ทรงส่งเสริมตามความสมัครใจของชายหญิง


                      4. การวางพื้นฐานในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีกับ

                      ชนกลุ่มต่างๆ ในประเทศ และการสร้างความสัมพันธ์ไมตรี

                      อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและกับประเทศต่างๆ ในโลก



                            พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเสริมสร้างความ
                      เข้าใจอันดีกับชนกลุ่มต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และทรงสร้างสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ

                      ให้เจริญงอกงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้ดำเนินมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 แล้ว แต่ในสมัย
                      รัชกาลที่ 7 นั้น โลกได้เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากขึ้น ทรงเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องสร้างความ
                      เข้าใจซึ่งกันและกันบนพื้นฐานของการยอมรับซึ่งกันและกันมากขึ้น ดังจะเห็นจากการเสด็จทรง

                      พบปะเยี่ยมเยียนชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ในคราวเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดในภาคเหนือและ
                      ภาคใต้ เช่น ทรงโปรดให้ ชาวลั้ว ในภาคเหนือเข้าเฝ้าพระราชทานพระราชดำรัสให้อยู่ร่วมกับ

                      ชนกลุ่มอื่นด้วยดี ทรงเยี่ยมชุมชนและโรงเรียนของชาวจีนและของมิชชันนารีและทรงให้กำลังใจ
                      เป็นต้น นอกจากนี้ ในโอกาสวันฉัตรมงคล ก็จะมีพระราชดำรัสต่อทูตานุทูตและผู้แทนการค้า                  เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย
                      ต่างประเทศที่มาเฝ้าถวายพระพรในวโรกาสวันฉัตรมงคล โดยทรงเน้นว่าเมื่อประเทศสยามได้
   395   396   397   398   399   400   401   402   403   404   405