Page 17 - kpi20125

ในปี ค.ศ.2010 การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุท้องถนนทั่วโลกอยู่เป็นล าดับที่ 8 (Bliss and Raffo,

2013, p.5) เช่นเดียวกัน รายงานของ the Global Status Report on Road Safety ปี ค.ศ.2015 (พ.ศ.
2558) ตีพิมพ์โดย WHO ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 1.25 ล้านคน เฉพาะภูมิภาคเอเชีย
แปซิฟิก 733,000 คน หรือประมาณร้อยละ 60 ของสัดส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประชากรทั้ง
โลก ทั้งยังพบว่าในระหว่างปี ค.ศ.2010 – 2013 มีอัตราการเสียชีวิตลดลงร้อยละ 5.6 แต่อย่างไรก็ตามในปี

ค.ศ.2013 อัตราการตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่ที่ 18.99 คนต่อแสนประชากร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 17.4
คนต่อแสนประชากรซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยระดับโลก (Economic and Social Commission for Asia and the
Pacific (ESCAP), 2017, p.154) จากภาพด้านล่างเห็นได้ว่าประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
จราจรสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ประมาณ 36 คนต่อแสนประชากรในปี ค.ศ.2015 (พ.ศ.2558) และอัตราการ

เสียชีวิตจากการจราจรทางถนนของประเทศไทยยังครองอันดับสูงสุดในโลก พบว่าปี ค.ศ.2017 (พ.ศ.2560)
ไทยมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 36.2 ต่อแสนประชากร (Economic and Social Commission for Asia
and the Pacific (ESCAP), 2017, p.154; ส านักข่าวอิศรา, 2560)

ภาพที่ 2.2 จ านวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและอัตราการเสียชีวิตต่อแสนประชากรของประเทศ
แถบเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP countries) ปี ค.ศ.2015
ที่มา: Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (ESCAP), 2017, p.156

นานาประเทศได้ให้ความส าคัญกับประเด็นความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้หรือบรรเทาเบาบางความเสียหายลงได้ ขณะเดียวกันหากเกิดขึ้นแล้วย่อมน า
ความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศก าลังพัฒนาหรือประเทศที่ยากจน หาก
ความปลอดภัยบนท้องถนนยังคงเกิดขึ้นในอัตราที่สูงก็ถือเป็นภาระทางเศรษฐกิจของประเทศได้เช่นกัน โดย

5