Page 259 - kpi20756
P. 259

การประชุมวิชาการ
                                                                                        สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21   2
                                                                                        ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                      5. วิเคราะห์/อภิปรายตามนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ



                            สภาพปัญหาของเมืองแบบเดิมๆ ที่เกิดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย ไม่อาจ

                      ตอบสนองต่อสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วปัจจุบัน ทำให้ตัวแสดงต่างๆ ต้องเข้ามา
                      มีบทบาทนำในการสร้างวาระนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะขึ้นมา ซึ่งมักปรากฏในลักษณะของ
                      การเรียกร้องของคนในพื้นที่หรือกลุ่มทุนท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการพร้อมพัฒนาเมือง เมื่อปัญหา

                      เริ่มชัดเจนก็ย่อมส่งผลต่อการสร้างสถาบันเพื่อแก้ไขปัญหา และการวางแผนการใช้จ่าย
                      งบประมาณเพื่อนำมาแก้ปัญหาเหล่านี้


                            การพัฒนาเมืองอัจฉริยะแม้จะได้รับความสนใจจากภาครัฐบาลมาก หากแต่ขาดการ
                      ขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ทำให้หลายๆ พื้นที่ตัวแสดงนำกลับเป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นหรือภาคประชาชน

                      ในภาพความเป็นจริง การผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้น มักมีการนำเสนอในมิติของการตอบสนอง
                      ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่และการเรียกร้องมักเกิดจากความต้องการของคนใน
                      จังหวัดนั้นๆ อย่างแท้จริง หากแต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อความสมเหตุสมผลประการหนึ่งเท่านั้น


                            การก่อตั้งบริษัทพัฒนาเมืองในหลายจังหวัด ถือเป็นการรวมเอากลุ่มทุนทั้งในระดับท้องถิ่น

                      และในระดับชาติเข้ามามีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายเมืองอัจฉริยะให้เกิดขึ้นอย่างเป็น
                      รูปธรรม ด้วยการจัดตั้งบริษัทที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ทำให้ภาคประชาชน

                      แทบไม่มีโอกาสเข้าไปถือหุ้นหรือมีส่วนสนับสนุนมากสมดังคำกล่าวอ้าง ประกอบกับการสร้าง
                      เครือข่ายของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาเมืองที่รวมเอาหลาย ๆ บริษัทเข้ามาด้วยกัน ย่อมส่งผลให้
                      เกิดการผลักดัน ส่งเสริม หรือสนับสนุนให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้ ดังจะเห็นได้จากในปี 2560

                      กลุ่มทุนเหล่านี้ยื่นข้อเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติตรากฎหมายส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนา
                      เมือง ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของนายฐาปนา บุณยประวิตร อุปนายกสมาคมการผังเมืองไทย

                      และถือเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายของกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเมือง กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินงานว่า
                      เกิดจากการผลักดันของภาคทุนเอกชนทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น พิษณุโลก เชียงใหม่
                      สมุทรสาคร สระบุรี และระยอง นำเสนอ “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการบรรษัทพัฒนาเมือง

                      พ.ศ. ...” ต่อคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภค และพิจารณาแล้วเสร็จ
                      ไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 (วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2560)


                            ผลการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ถือว่ามีการรับหลักการและให้ปรับปรุงแก้ไข
                      ร่างพระราชบัญญัติโดยเฉพาะในหมวดที่ 1 เรื่องเจตนารมณ์และเป้าหมาย เพื่อให้เป็นกฎหมาย

                      ในลักษณะของการส่งเสริมการพัฒนามากกว่าการมุ่งเน้นการควบคุม รวมถึงบริษัทจะต้องร่วม
                      ลงทุนกับภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ส่วนทุนจดทะเบียนบริษัทจากเดิมเสนอ
                      10 ล้านบาท ให้แก้ไขเป็น 100 ล้านบาท เนื่องจากงบประมาณสำหรับการก่อสร้างโครงสร้าง

                      พื้นฐานมีจำนวนมาก และผู้ถือหุ้นต้องมีหุ้นอย่างน้อย 20 หุ้นขึ้นไปด้วย (วิทยาลัยการปกครอง
                      ท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2560)                                                                 เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 5
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264