Page 260 - kpi20756
P. 260
2 0 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
นอกจากนี้ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการยังเห็นสมควรให้กิจการพัฒนาเมืองดำเนินไป
ในลักษณะของวิสาหกิจสังคม (Social Enterprise) ที่มุ่งเน้นการนำกำไรคืนสู่สังคม และ
ควรปลอดจากการใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาชี้นำแทรกแซงการดำเนินงาน ซึ่งในทางปฏิบัติจริง
จะเห็นได้ว่า ด้วยงบประมาณก่อตั้งบริษัทจำนวนมากจึงมิอาจเห็นคนในจังหวัดที่มีรายได้น้อย
เข้ามาถือหุ้นได้ หรืออาจมีเป็นพียงแค่พิธีกรรมบังหน้าเท่านั้น (วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2560)
ในกรณีของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของเมืองขอนแก่น ถือกำเนิดจากการที่ในอดีตผู้นำ
ในเมืองขอนแก่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกเทศมนตรี และเจ้าพ่อเป็นผู้ที่มีอิทธิพลบารมี
ในพื้นที่อย่างเช่น เสี่ยเล้ง ฉายามังกรแห่งอีสาน ที่มีอำนาจจากความร่ำรวยในธุรกิจหลากหลาย
ประเภท กลุ่มทุนท้องถิ่นหรือชนชั้นนำในท้องถิ่นเหล่านี้มองเรื่องการพัฒนาเมืองในอดีตเป็นเรื่อง
ไกลตัว และปล่อยไปตามการกำหนดนโยบายจากภาครัฐบาลอย่างเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา
กลุ่มชนชั้นนำท้องถิ่นเหล่านี้มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันและการมีวัฒนธรรมแชร์โต๊ะจีน เพื่อรวมตัว
กันรับประทานอาหารโดยสลับหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพทุกเดือน วัฒนธรรมเช่นนี้ส่งเสริมการสร้าง
ระบบการเป็นพันธมิตรในการต่อยอดทำธุรกิจ ซึ่งแตกต่างกับชนชั้นนำท้องถิ่นในที่อื่นๆ ที่มักจะ
ไม่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน กลุ่มชนชั้นนำท้องถิ่นของขอนแก่น มีต้นทุนทางสังคมที่สะท้อน
ความเป็น “ภูมิภาคนิยม” นั่นคือ การศึกษาเล่าเรียนในสถาบันการศึกษาหลักในจังหวัดในระดับ
มัธยม อย่างโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนและโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งถือเป็น
โรงเรียนชั้นนำในภูมิภาคในขณะนั้น กลุ่มชนชั้นนำเหล่านี้ส่วนมากเชื่อมั่นในมาตรฐานการศึกษา
ของจังหวัดและไม่จำเป็นต้องไปศึกษาต่อในกรุงเทพหรือแม้จะไปศึกษาต่อในกรุงเทพหรือ
ต่างประเทศ ในที่สุดก็ได้กลับมาทำงานด้านการพัฒนาเมืองขอนแก่นร่วมกันได้ (เพชรลัดดา
เพ็ชรภักดี, 2561)
นอกจากปัจจัยที่ทำให้การผลักดันนโยบายนี้ให้ได้รับความสนใจแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนเสริม
สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก
– ตะวันตกผ่านด้วย (East–West Economic Corridor) การพัฒนาโครงการขนส่ง เช่น
โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนารถขนส่งสาธารณะรางเบา (LRT) เป็นต้น จึงถือเป็น
โครงการแรก ๆ ที่ได้รับการผลักดันให้เกิดการทำจริง การผลักดันเหล่านี้ ประกอบด้วยชนชั้นนำ
มากมาย เช่น กลุ่มหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กลุ่ม Khon Kaen Think Thank (KKTT) ซึ่งเป็น
กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 20 คน ร่วมกันลงขันคนละ 10 ล้าน เพื่อต่อยอดการพัฒนาเมืองผ่าน
บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง ดังเช่น สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ถือเป็นกลุ่มทุนธุรกิจต่อรถยนต์
กลุ่ม ช.ทวี คุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น (เพชรลัดดา
เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 5 การผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นแก่จังหวัดอื่นๆ ด้วย แต่กระนั้นนโยบายนี้กลับถูกตั้งคำถามทั้งจาก
เพ็ชรภักดี, 2561)
ภาพความสำเร็จของการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นจริงในขอนแก่น ย่อมสร้างความหวังต่อ
ภาคราชการและประชาชนในพื้นที่ สูตรความสำเร็จของจากขอนแก่นมิอาจนำมาปรับใช้กับ
จังหวัดอื่นๆ ที่มีปัจจัยทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองที่แตกต่างกัน แม้จะมี