Page 68 - kpi20858
P. 68
25
การศึกษาถึงมุมมองในระยะต่างๆ มีความส าคัญอย่างมากต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะ แรกเริ่ม
นั้นเกิดจากการที่ศิลปินเฝ้าสังเกตธรรมชาติ และถ่ายทอดสิ่งที่เห็นบนพื้นฐานของการท าความเข้าใจ
ผ่านโลกทัศน์ของศิลปินชาวกรีกในยุคโบราณ เรื่อยมาจนกลายเป็นการศึกษาอย่างจริงจังและน าไปสู่
การก าหนดสร้างทฤษฎีทางทัศนียวิทยาอย่างเป็นระบบ ซึ่งปรากฏอย่างชัดเจนในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา
การ โดยศิลปินชาวอิตาลี
32
ทัศนียวิทยา (Perspective) หมายถึง การสร้างภาพลวงตาแบบ 3 มิติ บนพื้นระนาบ 2 มิติ
กล่าวคือเป็นการสร้างภาพลวงให้รู้สึกถึงความสมจริงดังที่ตามองเห็น ประกอบด้วย ระยะหน้า (Fore
Ground) ระยะกลาง (Middle Ground) และระยะหลัง (Back Ground) โดยทั่วไปทัศนียวิทยาสามารถ
แบ่งตามลักษณะของการแสดงออก ได้ 2 ลักษณะ คือ ทัศนียวิทยาเชิงเส้น (Linear perspective)
และทัศนียวิทยาแบบบรรยากาศ (Aerial perspective) ซึ่งการสร้างงานศิลปะตามหลักวิชานั้นมุ่งให้
ความส าคัญกับทัศนียวิทยาเชิงเส้นเป็นหลัก
2.1.1.1.2.1 ทัศนียวิทยาเชิงเส้น
ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคที่ศิลปินเป็นผู้แสวงหาความรู้จากมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่
ของศิลปะคลาสสิก ทว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การสืบสานแนวทางและปฏิบัติตามแต่เพียงเท่านั้น ยังมุ่งหวัง
ให้เกิดการเข้าถึงธรรมชาติอย่างสมเหตุผลมากกว่าเมื่อครั้งบรรพบุรุษได้เคยบุกเบิกไว้ ซึ่งหนึ่งในคุณ
33
สมบัติพิเศษของผลงานศิลปะในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการคือ การน าเสนอภาพด้วยทัศนียวิทยาเชิงเส้น
การเขียนทัศนียภาพได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบโดย ฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo
Brunelleschi) และต่อมาโดยอัลแบร์ตี (Leon Battista Alberti) การเขียนทัศนียภาพเป็นเครื่องมือทาง
คณิตศาสตร์ซึ่งเปลี่ยนภาพสามมิติที่มองเห็นจากวัตถุจริงลงบนระนาบเพียงสองมิติ เส้นสายในภาพ
ทั้งหมดจะวิ่งรวมกันไปที่ จุดอันตรธาน (vanishing point) ท าให้แลเห็นภาพเป็นสามมิติเสมือนความ
34
เป็นจริง
32 Susie Hodge, 50 art ideas you really need to know (London: Quercus Publishing, 2011), 31.
33 USEUM, The Birth of Perspective, accessed May 24, 2019 available from https://useum.org/Renaissance
/Perspective
34 สันติรักษ์ ประเสริฐสุข, สุนทรียศาสตร์และทฤษฎีสถาปัตยกรรมตะวันตก: จากคลาสิกถึงดีคอนสตรัคชัน, 47-48.