Page 14 - kpi21595
P. 14
วิธีการศึกษาวิจัย
งานวิจัยชิ้นนี้ใช้การศึกษาแบบผสม (mixed method) ระหว่างการศึกษาเชิงปริมาณ (quantitative
method) และการศึกษาเชิงคุณภาพ (qualitative method) เพื่อตอบวัตถุประสงค์ 2 ประการข้างต้น โดย
เลือกใช้การศึกษาเชิงปริมาณ ผ่านเครื่องมือคือแบบสอบถาม (questionnaire) เพื่อตอบวัตถุประสงค์ข้อแรก
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความเป็นพลเมืองตระหนักรู้และพลเมืองกระตือรือร้นของกลุ่มตัวอย่างภายหลัง
มีปฏิบัติการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระดับพื้นที่ โดยวัดจากความเปลี่ยนแปลงของคะแนนความเป็น
พลเมืองตระหนักรู้และพลเมืองกระตือรือร้นเปรียบเทียบก่อนและหลังมีปฏิบัติการ ของ 2 กลุ่มตัวอย่าง
ทั้งกลุ่มที่เข้ารับการอบรมโดยตรงจากสถาบันพระปกเกล้า และกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้รับการอบรมโดยตรงจาก
สถาบันพระปกเกล้าแต่คาดว่าจะได้รับการพัฒนาความรู้โดยแกนนำพลเมือง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของคะแนน
ความเป็นพลเมืองหรือไม่อย่างไรในระดับใด
ขณะที่ การศึกษาเชิงคุณภาพนั้นมุ่งตอบวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ในเรื่องของเงื่อนไขปัจจัยที่ส่งเสริมหรือ
ขัดขวางต่อการสร้างสำนึกพลเมืองตระหนักรู้และพลเมืองกระตือรือร้นในระดับพื้นที่ และเพื่อเติมเต็มความ
สมบูรณ์ของผลการศึกษาที่ได้รับจากการศึกษาเชิงปริมาณในส่วนแรก โดยเครื่องมือสำคัญที่ใช้ประกอบด้วย
การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (semi structured interview) กับกลุ่มแกนนำพลเมืองและกลุ่มตัวอย่างใน
พื้นที่ การสนทนากลุ่ม (focus group) ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น และการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอำเภอ และข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลตาม
แบบการตรวจสอบสามเส้า (triangulation) จากแหล่งข้อมูลที่ต่างกัน
ขอบเขตในการศึกษาวิจัย
ขอบเขตด้านพื้นที่การศึกษา งานวิจัยชิ้นนี้เลือกดำเนินการใน 10 อำเภอนำร่อง จังหวัดร้อยเอ็ด
ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินโครงการปฏิบัติการเสริมสร้างพลังพลเมือง ของสถาบันพระปกเกล้า โดยสำนักส่งเสริม
การเมืองภาคพลเมือง ประกอบด้วย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี อำเภอปทุมรัตต์ อำเภอสุวรรณภูมิ
อำเภอโพนทอง อำเภอเสลภูมิ อำเภอจังหาร อำเภอพนมไพร อำเภอหนองพอก และอำเภอเกษรตรวิสัย โดยใน
ส่วนของการเก็บแบบสอบถามนั้นจะดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่างใน 10 อำเภอนำร่อง แต่การศึกษาเชิงคุณภาพ
ซึ่งใช้การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่นั้น ผู้วิจัยจะคัดเลือกอำเภอนำร่องอย่างน้อย 3 แห่งจากผลคะแนน
ความเป็นพลเมืองตระหนักรู้และกระตือรือร้นที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด ปานกลาง และน้อยที่สุด ตามลำดับ
เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชิงลึกต่อไป
สำหรับขอบเขตด้านประชากรนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มประชากรตัวอย่างที่ได้รับการอบรม
โดยตรงจากสถาบันพระปกเกล้า โดยสำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง ในที่นี้คือแกนนำพลเมืองใน 10
อำเภอนำร่อง อีกกลุ่มคือประชากรตัวอย่างที่ไม่ได้รับการอบรมโดยตรงจากสถาบันพระปกเกล้า แต่คาดว่าจะ
ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการเสริมสร้างพลังพลเมืองในระยะที่ 2 ของแกนนำพลเมืองในระดับอำเภอ สำหรับ
การเก็บข้อมูลกับกลุ่มประชาทั้ง 2 จะจำแนกตามวิธีการศึกษา กล่าวคือ การศึกษาเชิงปริมาณผู้วิจัยจะเก็บ
แบบสอบถามจากแกนนำพลเมืองที่เข้ารับการอบรมโดยตรงจากสถาบันพระปกเกล้าทุกคน ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่
6