Page 314 - 22373_Fulltext
P. 314
1.1) ส่งเสริมให้เกิดโครงการเสริมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นเฉพาะในประเด็นของการจัดท้าฐานข้อมูลความเหลื่อมล ้าในระดับพื นที่ก่อนเป็นโครงการแรก หลังจาก
นั นจึงขยายผลเป็นโครงการอื่นๆ ต่อไป
1.2) จัดอบรมการเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือจัดอบรมเฉพาะ
ในเรื่องการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและจัดท้าข้อมูล โดยเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากขั นตอนดังกล่าว ต้องใช้ระยะเวลาในการด้าเนินการ จึงอาจขยายเวลาการด้าเนินโครงการให้เพิ่ม
มากกว่าเดิม เพราะนอกจากจะได้ข้อมูลความเหลื่อมล ้าทางการศึกษาในพื นที่แล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ยังได้เรียนรู้การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลความเหลื่อมล ้า
1.3) ด้วยข้อจ้ากัดทางด้านข้อมูลของหน่วยงานในระดับประเทศที่มองความเหลื่อมล ้าได้เฉพาะ
ในภาพกว้าง ยังขาดรายละเอียดสภาพปัญหาในระดับลึก เช่น ความยากจนของเด็กอาจเกิดจากหลายสาเหตุ
แตกต่างกันไป ดังนั นในการส้ารวจข้อมูลควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส้ารวจข้อมูลเชิงลึก เช่น
ปัญหาเด็กขาดเรียนที่ท้าให้หลุดออกจากระบบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรส้ารวจข้อมูลเชิงลึกว่าอะไรคือ
สาเหตุที่ท้าให้เด็กไม่ไปเรียนหนังสือ เพื่อให้ได้ท้าฐานข้อมูลเชิงลึกส้าหรับการแก้ไขปัญหาต่อไป
1.4) ในระยะยาวสถาบันพระปกเกล้าควรส่งเสริม สนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
ความเหลื่อมล ้าทางการศึกษาในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาพรวม เพื่อให้องค์กรปกครองส่วน
การวิจัยขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกลดความเหลื่อมล ้าทางด้านการศึกษา
ท้องถิ่นน้าไปใช้ในการเก็บข้อมูลในพื นที่ของตนเอง โดยเป็นระบบฐานข้อมูลที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สามารถปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับพื นที่ของตน และสามารถปรับให้มีความทันสมัยได้ตลอดเวลา ทันกับ
สถานการณ์
2) ในขั นตอนของการวิเคราะห์ควรมีการอบรมให้ความรู้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยเน้นย ้าในเรื่องของการนิยามกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแก้ไข
ปัญหา อาทิ เด็กยากจนคืออะไร คือคนกลุ่มใด รวมถึงกลุ่มคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว เพื่อให้
การส้ารวจและการแก้ไขปัญหามีความชัดเจน โดยการระบุปัญหาความเหลื่อมล ้าทางการศึกษาในพื นที่ควรเน้น
ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นวิเคราะห์ข้อมูลผ่านข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลแยกตาม
กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีสภาพความเหลื่อมล ้าความแตกต่างกัน วิธีการแก้ไขปัญหา
ก็ย่อมแตกต่างกัน อาทิ ในกลุ่มเด็กพิเศษมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง การแก้ปัญหาให้ส้าเร็จ อาจต้องแก้ไขผู้ที่มี
ส่วนเกี่ยวข้องด้วย และอาศัยภาคีเครือข่ายในการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเพราะต้องอาศัยความรู้ความสามารถ
ความเชี่ยวชาญของเครือข่าย เช่น บางปัญหาควรเชื่อมโยงกับนักสังคมสงเคราะห์ ควรมีนักสังคมสงเคราะห์
เข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือเข้าไปให้ค้าแนะน้า
3) ควรส่งเสริมให้มีกิจกรรมที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคืนข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม
ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลกลับไปสู่ชุมชนเพื่อสะท้อนสภาพปัญหาให้ผู้ปกครองและสังคมได้รับรู้ ซึ่งจะน้าไปสู่
การสร้างความตระหนักถึงความส้าคัญของปัญหา โดยอาจท้าให้รูปของเวทีประชาคม การประชาสัมพันธ์
ผ่านสื่อท้องถิ่นต่าง ๆ รวมถึงควรรายงานความก้าวหน้าในการด้าเนินงาน ผลการด้าเนินงาน หรือความส้าเร็จ
ในการด้าเนินงานให้ชุมชนได้รับทราบอยู่ตลอดเวลา
290 วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า