Page 133 - kpiebook62001
P. 133
ได้รับและไม่ควรได้รับสวัสดิการ โดยลักษณะส าคัญของคนจนที่ควรได้รับสวัสดิการก็คือเป็นกลุ่มคนที่มุ่งกลับสู่การ
ท างาน
(1) เส้นทาง
เส้นทางของระบบสวัสดิการสหราชอาณาจักรมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง การ
เปลี่ยนแปลงของระบบสวัสดิการสหราชอาณาจักรเคยถูกมองเป็นจุดเริ่มส าคัญของระบบสวัสดิการสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นใน
ยุโรป ค ากล่าวถึงการมีระบบสวัสดิการรองรับชีวิตจากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน (from cradle to grave) แท้จริงแล้ว
ก็เป็นค ากล่าวที่ใช้ระบุแนวคิดเบื้องหลังการสร้างระบบสวัสดิการของสหราชอาณาจักรในช่วงทศวรรษ 1940
ปัจจัยส าคัญที่น ามาซึ่งการขยายตัวของระบบสวัสดิการในช่วง 1940 นี้ก็คือความเห็นร่วมในสังคมช่วงหลัง
สงครามโลกถึงความจ าเป็นของการมีระบบสวัสดิการที่ช่วยดูแลทุกคน สภาวะความคิดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในรายงาน
ของเบเวอร์ริจ (Beveridge Report) ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาชิ้นส าคัญที่เป็นฐานการออกแบบระบบสวัสดิการของส
หราชอาณาจักร หัวใจของรายงานชิ้นนี้คือการถือระบบสวัสดิการเป็นสิทธิทางสังคมที่ประชาชนพึงได้รับ มุ่งเน้น
การศึกษาเป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาสที่ทัดเทียม ให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงการบริการทางสาธารณสุขที่
มีคุณภาพ และมีการคุ้มครองทางสังคม (Taylor and Powell, 2017) รายงานของเบเวอร์ริจน าไปสู่การริเริ่มระบบการ
รักษาพยาบาลถ้วนหน้าที่ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้อย่าง National Health Services (NHS) ระบบประกันสังคมส าหรับ
แรงงาน (National Insurance) และระบบการช่วยเหลือผู้มีรายได้ขั้นต่ า (National Assistance) การขยายตัวของ
ระบบสวัสดิการสหราชอาณาจักรในช่วงเวลานี้ช่วยส่งอิทธิพลให้ประเทศอื่น ๆ ในยุโรปเดินตามแนวทางคล้ายกัน ท าให้
ฐานะของระบบสวัสดิการกลายเป็นมากกว่าแค่การตอบสนองกับปัญหาความยากจน แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริการ
สาธารณะที่รัฐพึงสร้างให้กับประชาชนโดยทั่วไป (Hills, 1993)
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของระบบสวัสดิการในสหราชอาณาจักรกลับพบความพลิกผัน โดยเฉพาะเมื่อนโยบาย
เศรษฐกิจแบบเคนส์เซี่ยน (Keynesian) ได้รับความนิยมลดลง นโยบายดังกล่าวใช้รายจ่ายรัฐเพื่อเป็นเครื่องมือ
ประคับประคองระดับการจ้างงานของสหราชอาณาจักร แต่เมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 1970 กลับถูกโจมตีอย่างมากว่าล้มเหลว
ในการเป้าหมาย นอกจากนี้เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรยังเผชิญกับภาวะที่ภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ที่ประเทศพึ่งพิงมา
ยาวนาน เช่น ถ่านหิน ฝ้าย นั้นล้วนแต่ขาดความก้าวหน้าในการผลิต จนท าให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ช้า (Hills,
1993)
ปัญหาเรื่องทางเศรษฐกิจและการว่างงานที่เรื้อรัง ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดแนวคิดใหม่เกี่ยวกับบทบาท
ของรัฐและระบบสวัสดิการ บทบาทของภาครัฐเริ่มถูกโจมตีอย่างหนักถึงความไร้ประสิทธิภาพ สหภาพแรงงานถูกมองว่า
เป็นอุปสรรคต่อการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า แนวคิดเกี่ยวกับระบบสวัสดิการก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ระบบสวัสดิการเริ่มถูกมองในฐานะต้นทุน ในขณะที่ผู้ได้รับสวัสดิการถูกตีตราเป็นภาระกับสังคม
การปฏิรูประบบสวัสดิการของสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นภายใต้การปรับเปลี่ยนมุมมองนี้ เริ่มตั้งแต่การ
ปรับเปลี่ยนการบริหารสวัสดิการให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมได้มากขึ้น การแสวงหาประสิทธิภาพในการบริหารระบบ
124