Page 135 - kpiebook62001
P. 135
แม้ว่าจะใช้แนวทางการเจาะจงที่คนจนมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี แต่สหราชอาณาจักรก็มีระดับความเหลื่อม
ล้ าสูงเมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ดัชนีจีนี่ของสหราชอาณาจักรในปีคศ.2016 อยู่ที่ 0.35 เทียบกับ
ประเทศเช่นฝรั่งเศสอยู่ที่ 0.29 และประเทศในแสกนดิเนเวียเช่นเดนมาร์กที่ 0.26 หรือสวีเดนที่ 0.28 (OECD, 2019)
การศึกษาเปรียบเทียบรัฐสวัสดิการในยุโรปจัดอันดับสภาพปัญหาความยากจนและความแปลกแยกทางสังคมให้สหราช
อาณาจักรอยูที่ล าดับ 15 จาก 23 ประเทศในยุโรป (The Independent, 2016) ซึ่งถือเป็นอันดับที่ค่อนข้างต่ าเมื่อเทียบ
กับขนาดเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคยุโรป
สภาพความเหลื่อมล้ าที่สูงของสหราขอาณาจักรในปัจจุบันเป็นสภาพที่พัฒนาขึ้นมาในช่วงหลังกลางทศวรรษที่
1970 ในต้นทศวรรษ 1970 นั้นความเหลื่อมล้ าของสหราชอาณาจักรยังอยู่ที่ค่าจีนี่เพียง 0.26 แต่แล้วความเหลื่อมล้ า
ในสหราชอาณาจักรกับแย่ลงอย่างต่อเนื่องพร้อม ๆ กับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลดบทบาทของรัฐสวัสดิการ
โดยช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งเกิดการปฏิรูปของแทชเชอร์นั้น ค่าจีนีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากประมาณ 0.26 ไปสู่ 0.34 และ
สภาพความเหลื่อมล้ าของสหราชอาณาจักรก็อยู่ในระยะใกล้เคียงกันหลังจากนั้น (The Equality Trust, 2019) จึงกล่าว
ได้ว่าการปรับตัวของระบบสวัสดิการในสหราชอาณาจักรที่เกิดพร้อม ๆ การปฏิรูปของแทชเชอร์ ซึ่งคือการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบสวัสดิการไปสู่สวัสดิการแบบเสรีนิยม มีความเชื่อมโยงกับความเหลื่อมล้ าที่เพิ่มขึ้นของสหราชอาณาจักร
การก้าวเข้าสู่เส้นทางของระบบสวัสดิการแบบเสรีนิยมของสหราชอาณาจักร ยังน ามาซึ่งการตัดสวัสดิการ
เพิ่มเติมเมื่อประเทศต้องประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ เช่นที่เกิดขึ้นในช่วงหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในช่วงกลางทศวรรษ
2000 รัฐบาลช่วงต้นทศวรรษ 2010 ที่น าโดยนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน เสนอทางออกเป็นนโยบายลดรายจ่าย
ภาครัฐและตัดสวัสดิการ ภายในระยะเวลาเพียงสี่ปีนโยบายดังกล่าวส่งผลให้สภาพเช่นความยากจนในเด็กของสหราข
อาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะส าคัญ โดยจ านวนเด็กที่อยู่ในปัญหาความยากจนโดยเปรียบเทียบเพิ่มขึ้นถึงกว่า 6 แสน
คน และส่งผลให้สภาพความยากจนของครัวเรือนกว่า 1.75 ล้านครัวเรือนนั้นแย่ลง (The Guardian, 2014)
กล่าวได้ว่านอกจากผลในการเพิ่มความเหลื่อมล้ าในช่วงตั้งแต่การปรับโครงสร้างเพื่อเข้าสู่เส้นทางของ
สวัสดิการแบบเสรีนิยมที่เน้นการเจาะจงคนจนของสหราชอาณาจักรแล้ว การก้าวเข้าสู่เส้นทางดังกล่าวยังน ามาซึ่งผลอีก
หลายประการ เช่น การตีตราผู้ได้รับสวัสดิการผ่านการช่วยเหลือคนยากจนให้เป็นภาระ การสร้างเส้นแบ่งระหว่างผู้
ได้รับสวัสดิการที่ควรได้รับการช่วยเหลือและผู้ที่ไม่ควร สภาพเหล่านี้ยังสร้างความเป็นไปได้ที่มากขึ้นที่รัฐบาลจะหันมา
เลือกใช้การตัดงบประมาณสวัสดิการเป็นแนวทางจัดการปัญหาเศรษฐกิจ อันท าให้การลดความเหลื่อมล้ าภายใต้
สวัสดิการแบบเสรีนิยมนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้นในระยะยาว
5.2.2 ระบบสวัสดิการของสวีเดน
เมื่อเปรียบเทียบกับสหราชอาณาจักร สวีเดนมีระบบสวัสดิการที่แตกต่างไปในหลายรายละเอียด ระบบ
สวัสดิการของสวีเดนเป็นตัวอย่างของระบบสวัสดิการแบบสังคมนิยมประชาธิปไตย (Social Democratic) ที่เน้น
บทบาทที่กว้างขวางของภาครัฐ การให้สวัสดิการมีระดับสิทธิประโยชน์สูง โดยมาพร้อม ๆ กับอัตราภาษีที่ค่อนข้างสูง
เช่นกัน ระบบสวัสดิการแบบนี้เน้นการใช้นโยบายสวัสดิการแบบถ้วนหน้า และให้ความส าคัญกับกลไกการกระจาย
126