Page 70 - kpiebook62001
P. 70

และช่วงเงินโอนลดลง (phase-out) ที่จะค่อย ๆ ลดจ านวนเงินโอนลงเมื่อผู้มีสิทธิรับเงินโอนมีรายได้สูงกว่าระดับเส้น

               ความยากจน เงินโอนจะค่อย ๆ ลดลงไปจนกว่าผู้มีสิทธิรับเงินโอนมีรายได้ 80,000 บาทต่อปี หรือ ณ ระดับค่าจ้างขั้นต่ า
               (ณ ปี พ.ศ. 2557)

                       นอกจากนั้น หลาย ๆ ประเทศในโลกนี้ที่ได้ปรับเอาแนวคิดภาษีติดลบไปใช้เป็นนโยบาย เช่น Earned Income

               Tax Credit ในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 Working Tax Credit ของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ.
               2545 Working Income Tax Benefit ของประเทศแคนาดาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ซึ่งแต่ละประเทศนั้นต่างก็ก าหนด

               เงื่อนไขหนึ่งของผู้รับเงินโอนไว้ก็คือจะต้องท างานเท่านั้นถึงจะมีสิทธิได้รับเงินโอน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็

               พยายามผลักดันให้ผู้ถือบัตรนั้นได้ไปฝึกอาชีพกับหลักสูตรของกระทรวงแรงงานเช่นกัน จึงอาจสรุปได้ว่ารูปแบบ
               โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีฐานคิดและถูกดัดแปลงมาจากข้อเสนอแนวคิดนโยบายภาษีติดลบของ สศค. นั่นเอง

                       ประเด็นที่สอง งานศึกษาข้างต้นพยายามชี้ให้เห็นว่างบประมาณด้านสวัสดิการของไทยสูงขึ้นทุกปี โดยอ้างอิง

               จากงานศึกษาของสุรจิต ลักษณะสุต และคณะ (2553) ที่พบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2550-2554 งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้น
               เฉลี่ยร้อยละ 8.8 ขณะที่งบประมาณด้านสวัสดิการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 12.5 โครงการที่มักถูกน ามาอ้างถึงเสมอคือเบี้ย

               ยังชีพผู้สูงอายุ ดังข้อความนี้

                              “...ระบบสวัสดิการของไทยต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมา
                       จากการไม่สามารถระบุตัวผู้ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือได้ ทั้งนี้ หากพิจารณางบประมาณที่ต้องใช้

                       ส าหรับการด าเนินนโยบายแบบถ้วนหน้า (Universal Coverage) ในกรณีตัวอย่างของเบี้ยยังชีพ

                       คนชรา (มีชื่อเป็นทางการว่า “โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ”) ซึ่งในอดีตนั้น รัฐบาลไทย
                       เคยใช้วิธีการจัดสรรเบี้ยยังชีพคนชราโดยวิธีการตรวจสอบรายได้ (Means Test) อย่างไรก็ตามด้วย

                       อุปสรรคทางด้านความยุ่งยากในการคัดกรองคนจนเพื่อหาบุคคลผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพ ซึ่งมีต้นทุน

                       ค่อนข้างสูง ประกอบกับการที่ระบบ Means Test มักจะน าไปสู่ปัญหาที่เรียกว่า Exclusion Error (นั่น
                       คือ การที่คนยากจนจริง ๆ ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล) ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 รัฐบาลจึงได้

                       ยกเลิกระบบ Means Test โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบถ้วนหน้าแทน”

               ที่มา: ปัณณ์ อนันอภิบุตร และคณะ (2556)
               หมายเหตุ: ข้อความเน้นตัวหนาและในวงเล็บมาจากต้นฉบับ


                       อีกทั้งสัดส่วนของผู้รับประโยชน์ที่เป็นคนจนของนโยบายสวัสดิการต่าง ๆ ที่ภาครัฐเคยจัดท ามายังค่อนข้างต่ า
               ดังตารางที่ 3.2 ด้านล่างนี้


                          ตารางที่ 3.2 การเข้าถึงบริการที่รัฐจัดให้ จ าแนกตามกลุ่มผู้รับประโยชน์ (คนจนและคนไม่จน)
                                     การเข้าถึงบริการ                ไม่จน                จน

                             เงินกู้เพื่อการศึกษา                     99.8                0.2

                             ธนาคารประชาชน                            97.9                2.1


                                                               61
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75