Page 207 - kpiebook65020
P. 207

168
                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                    โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”

               จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถขององค์กรภาครัฐในการออกแบบ จัดท าและดูแลการใช้กฎและ
               นโยบายในท้ายที่สุด ดังนั้นแล้วคุณค่าที่แท้จริงของ RIA  จึงไม่สามารถวัดได้ในรายงานเพียงฉบับเดียว แต่จะ

               วิเคราะห์จากคุณภาพและความสามารถขององค์กรที่จะค่อยๆสะสมเพิ่มพูนขึ้นผ่านการท า RIA ในระยะยาว

                              1.1.4.2 แนวทางของประเทศพัฒนาแล้ว

                              วิธีการในการด าเนินการวิเคราะห์ผลกระทบก็แตกต่างกันออกไปในประเทศต่าง ๆ เช่น ใน
               ประเทศสหรัฐอเมริกาจะใช้วิธีการวิเคราะห์และผลประโยชน์ โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องศึกษาผลกระทบจาก
               การออกกฎหมายแล้วใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ช่วยค านวณต้นทุนผลกระทบต่าง ๆ ออกมาเป็นตัวเลข
               อย่างชัดเจน ร่างกฎหมายใดที่หลังจากค านวณแล้วมีค่าของผลประโยชน์มากกว่าต้นทุนจะถือว่าผ่านการ

               วิเคราะห์ผลกระทบและอาจจะถูกยกร่างกลายเป็นกฎหมายต่อไป ในทางตรงข้าม ตาม สหภาพยุโรป พิจารณา
               ผลกระทบในหลายด้านแยกออกจากกัน (Multi-Criteria  Analysis)    ประเทศกลุ่มสเกนดิเนเวียและ
               ออสเตรเลีย ที่เลือกใช้วิธีการวิเคราะห์ที่เรียกว่า หลักการค านวณภาระในการปฏิบัติตามกฎหมาย (Standard

               Cost Model) โดยวิธีการนี้จะวิเคราะห์ภาระของประชากรในการท าตามร่างกฎหมายที่ถูกเสนอเปรียบเทียบ
               กับภาระของประชากรหากไม่มีการร่างกฎหมายใหม่ เมื่อหน่วยงานของรัฐทราบข้อมูลของภาระของประชาชน
                                                                                                33
               ที่เพิ่มขึ้นก็จะต้องน าข้อมูลนี้ไปวิเคราะห์ร่วมกันข้อมูลอื่นๆเพื่อน าไปสู่การตัดสินออกกฎหมายต่อไป
                              1.1.4.3 แนวทางของประเทศก าลังพัฒนา

                              ส าหรับประเทศก าลังพัฒนามีงานวิจัยระบุว่าประเทศมีรายได้ปานกลางในกลุ่ม OECD อย่าง
                                 34
               เกาหลีใต้และเม็กซิโก  มีความพยายามในการจัดท า RIA  โดยมีการจัดท ากฎหมายและจัดตั้งองค์กรขึ้นมา
               รับผิดชอบการจัดท า RIA  อย่างต่อเนื่อง เกาหลีใต้ใช้วิธีการวิเคราะห์ที่อ้างอิงมาจาก OECD  Checklist  และ
                                                 35
               วิธีการวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์  นอกจากนี้แล้ว ในปี 2015  เกาหลีใต้ได้ริเริ่มใช้วิธีการ Cost-In
               Cost-Out (CICO) เพื่อใช้ควบคุมไม่ให้การออกกฎโดยรวมมีต้นทุนมากกว่าผลประโยชน์  ส่วนในประเทศก าลัง
               พัฒนากลุ่มรายได้น้อยส่วนใหญ่แม้จะรับเอาแนวคิดการจัดท า RIA เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกรอบคิดของการร่าง
                                                                          36
               กฎหมายแต่ก็ไม่มีการจัดท าระเบียบวิธีส าหรับการวิเคราะห์อย่างชัดเจน








               33
                 ใจใส วงส์พิเชษฐ,  “Standard  Cost  Model:  แบบการค านวณภาระในการปฏิบัติตามกฎหมาย,”  กองพัฒนากฎหมาย
               ส านักงานกฤษฎีกา, (2562) สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563, จาก https://lawreform.go.th/uploads/files/ 1520327
               367-oz7k5-aldar.pdf?fbclid=IwAR23WhntMAtCjD6dgNlZUn8RQXUkcdgEQ1NAZdOARXX_7_BSLMUZa LrZLdg
               34
                  เพิ่งอ้าง.
               35
                 ใจใส วงส์พิเชษฐ และสัจจรัตน์ พิชิตปัจจา, “การพัฒนาคุณภาพของกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้,” กองพัฒนากฎหมาย
               ส านักงานกฤษฎีกา, (2562) สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563, จากhttp: //web.krisdika.go.th/dat/outsitedat/article
               77/file77/f14.pdf
               36 . Peci and Sobral, “Regulatory Impact Assessment: How political and organizational forces influence its
               diffusion in a developing country,”,Regulation & Governance, Vol 5, pp. 204-220 (2011).
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212