Page 31 - kpiebook65064
P. 31

โครงการสังเคราะห์ข้อเสนอ      I
                                                                                   เพื่อเสริมสร้างการอภิบาลระบบยา




                                      ข้อแย้งจากภาคประชาสังคม เป็นต้น ดังนั้นการออกกฎหมายหรือระเบียบแต่ละระดับ

                                      จึงควรเปิดช่องทางการมีส่วนร่วมที่เปิดกว้าง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และป้องกัน
                                      การแทรกแซงหรือการให้น้ำหนักต่อข้อเรียกร้องจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป

                                  อย่างไรก็ตาม การออกแบบระบบและยกระดับการมีส่วนร่วมต้องคำนึงถึงการจัดความ

                           สัมพันธ์ระหว่างเอกชนและภาครัฐในแต่ละกรณีด้วย แม้ภาคเอกชนจะมีส่วนได้ส่วนเสียจากการ
                           ออกกฎหมายและนโยบายในหลายด้านก็จริง แต่การออกกฎหมายและระเบียบบางอย่าง
                           อาจสามารถให้เอกชนมีระดับการมีส่วนร่วมได้มากขึ้น เช่น การกำหนดแนวนโยบายเพื่อพัฒนา

                           อุตสาหกรรมยา การกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) ฯลฯ ที่ภาคเอกชน
                           อาจสามารถเข้าร่วมเป็นคณะทำงานในการเสนอเรื่องและตัดสินใจได้ ในขณะที่บางประเด็น

                           ภาคเอกชนไม่สมควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เช่น การพิจารณาคัดเลือกยาจำเป็นใน
                           บัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นต้น

                                3). การพัฒนาองค์กรและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องให้มีบทบาทชัดเจนและเป็น

                           มืออาชีพที่สอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติด้านยา


                                  เนื่องจากการศึกษาความเสี่ยงของระบบอภิบาลยาพบว่าหลายองค์กรยังมีข้อจำกัดในการ
                           พัฒนาการทำงานให้เป็นมืออาชีพเพราะมีข้อจำกัดในทางกฎหมายที่ไม่ให้อำนาจ มีภาระงานที่มาก

                           มีทรัพยากรทั้งงบประมาณและบุคลากรจำกัด และต้องทำหน้าที่ที่หลากหลายทั้งการบริหารงาน
                           ประจำ การกำกับดูแล และการทำงานในเชิงวิชาการ เช่น ภาระงานที่มากของสำนักงาน

                           คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพราะต้องทำหน้าที่ทั้งการขึ้นทะเบียนตำรับยา การคัดเลือกยา
                           เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ และการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพเกี่ยวกับยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
                           จำนวนมาก เป็นต้น การพัฒนาองค์กรและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กับ

                           การกำหนดทิศทางและนโยบายแห่งชาติด้านยา กล่าวคือ นโยบายแห่งชาติด้านยาควรวางบทบาท
                           หน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบอภิบาลยาให้ชัดเจน ในบทบาทหน้าที่การทำงานและความ

                           รับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดทิศทางของ
                           องค์กรหรือคณะกรรมการว่าควรทำงานเน้นไปในลักษณะใดเช่น ด้านการบริหารงานทั่วไป
                           (Administration) หรือด้านการกำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย (Regulation) หรือเป็นหน่วยงาน

                           ด้านวิชาการ (Academics) เป็นต้น

                                  การกำหนดบทบาทและอำนาจหน้าที่เหล่านี้จะช่วยพัฒนาทิศทางขององค์กรหรือ
                           คณะกรรมการในด้านความเป็นมืออาชีพด้วยเช่นกัน เพราะทำให้พวกเขาพัฒนาศักยภาพของความ

                           เป็นมืออาชีพที่สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจขององค์กรเพื่อตอบโจทย์ของนโยบายแห่งชาติ
                           ด้านยา อาทิ การวางบทบาทของหน่วยงานผู้ทำหน้าที่ด้านราคากลางยา ถ้าภาครัฐมีนโยบายในการ
                           ควบคุมราคายาให้มีราคาถูกและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อาจต้องให้หน่วยงานลักษณะนี้เข้ามาช่วย

                           ควบคุมหรือต่อรองราคายา รวมถึงพัฒนาศักยภาพขององค์กรและเจ้าหน้าที่ในการเจรจาต่อรองด้วย
                           ในทางตรงข้าม ถ้าภาครัฐต้องการให้ตลาดยาเน้นการแข่งขันเสรีอาจทำให้หน่วยงานนี้เป็นเพียง





                                                                                                       บทสรุปผู้บริหาร
                                                                                                     สถาบันพระปกเกล้า
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36