Page 322 - kpiebook65064
P. 322
272 โครงการสังเคราะห์ข้อเสนอ
เพื่อเสริมสร้างการอภิบาลระบบยา
กฎหมายเท่านั้น เช่นเดียวกับคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติและคณะทำงานชุด
55
ต่าง ๆ ไม่ได้กำหนดให้มีตัวแทนของฝ่ายเอกชนเข้ามาเพื่อป้องกันการทับซ้อนด้านผลประโยชน์
ภาคเอกชนจะเข้ามามีบทบาทเพียงการเสนอความเห็นหรือข้อแนะนำในเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องแก่
คณะกรรมการชุดต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนได้พยายามขอส่งตัวแทนเข้ามาเป็น
คณะกรรมการชุดต่าง ๆ เสมอ แต่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติไม่อนุญาตให้ผู้มีส่วนได้
ส่วนเสียโดยตรงมาเป็นกรรมการ หรือให้ฝ่ายเอกชนมีบทบาทเพียงเข้ามาให้ข้อมูลแต่ไม่ได้ให้เป็น
สมาชิกของคณะกรรมการ 56
การพยายามเข้ามามีบทบาทของภาคเอกชนยังเป็นที่ถกเถียงอยู่เสมอ เนื่องจาก
บางฝ่ายมองว่าการให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ มากเกินไปอาจนำมาสู่
การแทรกแซงการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของภาคเอกชนสร้างความทับซ้อน
ด้านผลประโยชน์ขึ้น หรืออาจขัดขวางนโยบายด้านยาบางประการที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์
ของภาคเอกชน ในขณะที่บางฝ่ายมองว่าการให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทจะมีส่วนช่วยในการ
พัฒนานโยบายแห่งชาติด้านยาและการกีดกันภาคเอกชน คือ การกีดกันการมีส่วนร่วมของผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย การกีดกันนี้อาจทำให้นโยบายเกี่ยวกับยาที่ออกมาอาจได้รับการต่อต้านหรือ
ไม่เห็นชอบจากฝ่ายเอกชนที่มองว่าเป็นนโยบายที่มิได้รับฟังความคิดเห็นหรือไม่เข้าใจสภาพ
การทำงานภาคเอกชน ดังนั้น การจัดความสัมพันธ์ที่เหมาะสมระหว่างภาคเอกชนกับ
57
คณะกรรมการชุดต่าง ๆ จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาระบบการคัดเลือกยาเข้าสู่บัญชียา
หลักแห่งชาติ 58
ปัญหาการจัดการจัดวางความสัมพันธ์ การกำหนดบทบาทและขอบเขตการมี
ส่วนร่วมของภาคเอกชนส่วนหนึ่งมาจากคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่
ในหลายด้าน ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.
2551 ได้ให้อำนาจหน้าที่การพัฒนาระบบยาบางด้านอาจกระทบต่อภาคเอกชนโดยตรงและ
ไม่ควรให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง เช่น จัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติ และกำหนด
ราคากลางยา เป็นต้น ขณะที่อำนาจหน้าที่บางด้านอาจสามารถเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามา
มีบทบาทได้ เช่น การกำหนดนโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยา
แห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมยา
เป็นต้น ดังนั้น การจัดความสัมพันธ์ของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจของ
คณะกรรมการชุดต่าง ๆ จึงสมควรได้รับการถกเถียงและพิจารณามากขึ้น เพื่อช่วยลดข้อขัดแย้ง
และสร้างฉันทานุมัติในการดำเนินนโยบายทั้งในส่วนของการคัดเลือกยาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ
และนโยบายอื่น ๆ ด้วย
55 ดูรายละเอียดในบทที่ 5
56 สัมภาษณ์, ผู้ให้สัมภาษณ์ D, วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556
57 สัมภาษณ์, ผู้ให้สัมภาษณ์ O และ P, วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
58 การจัดวางความสัมพันธ์และการกำหนดบทบาทและขอบเขตการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเป็นประเด็นที่ทาง
คณะผู้วิจัยมีการเถียงในลักษณะเดียวกับการเถียงข้างต้น
บทที่ 7
สถาบันพระปกเกล้า