Page 114 - kpi15428
P. 114
ชุมชนกับสิทธิ ในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ดังเดิม และเกิดความขัดแย้งระหว่างการประมงพาณิชย์กับการประมง
พื้นบ้าน นอกจากนี้ กฎหมายยังมอบอำนาจให้กับส่วนกลางอย่างกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์กับกรมประมง และให้การมีส่วนร่วมของประชาชนต้อง
ได้รับการคำสั่งจากรัฐมนตรีเสียก่อน (คณะบุคคลโครงการสิทธิชุมชน,
2554, น.91-92)
นอกจากนี้ มีตัวอย่างกรณีด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น
การออกพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำ
แร่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ท้องที่สามารถควบคุมปราบปรามการทำเหมืองแร่
ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งแม้จะมีการออกกฎหมายควบคุมก็ยังคงเกิดผลกระทบจาก
การทำเหมืองแร่เพราะกิจการมีการปล่อยน้ำจากการทำเหมือง หรือกรณี
การวางท่อก๊าซจากประเทศพม่าที่เริ่มในปี พ.ศ.2536 ซึ่งพื้นที่วางท่อก๊าซ
เป็นพื้นที่ป่าสงวนและชุมชน ชุมชนและองค์กรพัฒนาเอกชนจึงได้เรียกร้อง
ไม่ให้มีการวางแนวท่อบนพื้นที่ดังกล่าว เพราะการวางท่อก๊าซในแนวพื้นที่
ดังกล่าวมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว สัตว์ป่าในพื้นที่ การรั่วไหลของก๊าซที่
อาจจะเกิดขึ้น และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยการกระทำ
ดังกล่าวได้มีการตกลงกับประเทศพม่า
v การตอบสนองต่อสภาพปัญหาของชุมชนและรัฐ
ในช่วง พ.ศ.2475 – 2539
การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย
ที่ผ่านมาในอดีต เน้นรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ กฎระเบียบที่ตั้งขึ้นก็มาจาก
การยอมรับร่วมกันของคนในชุมชนนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นรัฐล้านนา ซึ่งมี
ความสัมพันธ์กับรัฐส่วนกลางด้วยระบบส่วยและตลาด และไม่มีกลไกของ
ระบบแบบราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็มีกฎหมายบางตัวที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
บ้าง เช่น การกำหนดให้ยกเว้นหรือลงโทษผู้ที่ทำความเสียหายแก่ฝาย
เหตุที่รัฐไม่ได้เข้าไปมีบทบาทมากก็เพราะจะทำให้ระบบตลาดไหลเวียน
ไม่สะดวกและมีผลกระทบต่อส่วยในที่สุด รัฐจึงปล่อยให้ล้านนามีการ
10