Page 121 - kpi15428
P. 121
ชุมชนกับสิทธิ ในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพราะอาจทำให้ชุมชนมีช่องทางได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นได้ และจะทำให้
ชุมชนแสดงออกซึ่งสิทธิตามสภาพ (De facto right) ได้ อย่างไรก็ดี
สภาพแวดล้อมทางการเมืองช่วงนี้มีลักษณะการช่วงชิงอำนาจและชนชั้นนำ
ในสังคมได้เป็นผู้นำทางการเมือง ประกอบกับสภาพแวดล้อมภายนอก
ประเทศที่เกรงกลัวต่อประเทศคู่สงครามและภัยคอมมิวนิสต์ หากกระจาย
อำนาจมากเกินไปอาจทำให้ไม่เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงทำให้การ
กระจายอำนาจเป็นเพียงลายลักษณ์อักษร ดังนั้น หนทางที่สิทธิชุมชนในการ
จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นผ่านช่องทางกระจาย
อำนาจในช่วงนี้จึงยังไม่เกิดขึ้น ในทางการเมืองช่วงนี้ยังเริ่มรับความเป็น
เสรีนิยมจากอุดมการณ์ประชาธิปไตยซึ่งเน้นความเป็นปัจเจกชนสูง และตาม
ทฤษฎีเสรีนิยมมักให้ความสำคัญกับสิทธิของปัจเจกชนทำให้บุคคลมีสิทธิ
และสอดคล้องกับที่บวรศักดิ์ อุวรรณโณ (2536, น.84 – 85 อ้างใน คณะ
บุคคลโครงการสิทธิชุมชน, 2554, น.5 - 6) ได้กล่าวว่าระบบกฎหมายไทย
รับเอาตัวแบบเสรีนิยมตะวันตกมาใช้ที่ถือว่ารัฐมีอำนาจเต็มในการตราและใช้
กฎหมาย ทำให้ชุมชนในช่วงนี้ขาดการรับรองทั้งสิทธิตามสภาพและสิทธิตาม
กฎหมาย อาจสรุปได้ว่า สภาพแวดล้อมทางการเมืองในช่วง พ.ศ.2475 –
2539 เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่มีความสำคัญเพียงพอที่จะทำให้ผู้มีอำนาจ
กำหนดนโยบายเกี่ยวกับสิทธิชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนได้ เพราะ
ในการกำหนดนโยบายต้องมีกลุ่มผู้เข้าร่วมกำหนดนโยบาย ความรู้เกี่ยวกับ
การกำหนดนโยบาย และองค์การกำหนดนโยบาย (สมพร เฟื่องจันทร์,
2552, น.86 - 87)
11