Page 340 - kpi15476
P. 340
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15 339
ระบบราชการที่เป็นระบบ ผ่านการจัดทำ “แผนปฏิรูประบบบริหารภาครัฐ” และการประกาศใช้
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2542 และ
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับรองมาตรฐานด้านการจัดการและผลสัมฤทธิ์ของงาน
ภาครัฐ พ.ศ. 2543
ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 รัฐบาลของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ยกเลิกระเบียบว่าด้วยการ
บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และดำเนินการตรากฎหมายที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลในระบบราชการไทยขึ้นฉบับหนึ่ง นั่นคือ พระราชกฤษฏีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และ
วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 โดยสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ได้ให้นิยาม
ของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเอาไว้ว่าจะต้องเป็นการบริหารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลัก
7 ประการ อันได้แก่ เกิดประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความ
จำเป็น มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์ ประชาชนได้รับการอำนวย
ความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ และมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่าง
สม่ำเสมอ (พระราชกฤษฎีการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.
2546 : มาตรา 6) ซึ่งพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ยังได้มีผลบังคับใช้อย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน
แนวโน้มและข้อจำกัดบางประการในการเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลในระบบราชการไทย
การทบทวนถึงสาระสำคัญของหลักธรรมาภิบาลและการรับเอาแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้ใน
ระบบราชการไทยได้ทำให้เราเห็นว่าตัวหลักธรรมาภิบาลเองก็มีสาระสำคัญหรือองค์ประกอบที่
หลากหลาย ซึ่งการจะนำเอาหลักการดังกล่าวมาปรับใช้ให้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์นั้น ย่อมมี
ความจำเป็นต้องมีการดำเนินการทั้งในเชิงโครงสร้างของระบบราชการเอง และในเชิงของ
กระบวนการในการบริหารงาน ซึ่งจากการพิจารณาถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้เราเห็นได้
ว่าความพยายามในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในระบบราชการไทยได้เริ่มต้นชัดเจนขึ้น
ตั้งแต่หลังปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.
2540 ที่สามารถมองได้ช่วยสร้างกลไกใหม่ขึ้นหลายกลไกเพื่อทำหน้าที่ในการช่วยเสริมสร้าง
ธรรมาภิบาลให้แก่ระบบราชการไทย
อย่างไรก็ตาม เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันระบบราชการไทยเองก็ยังคงต้องเผชิญกับ
ปัญหาที่เกี่ยวโยงกับประเด็นธรรมาภิบาลอยู่ ซึ่งหากเราพยายามที่จะวิเคราะห์ให้เห็นถึงเงื่อนไข
หรือปัจจัยที่ส่งผลให้ธรรมาภิบาลในระบบราชการไทยยังคงต้องประสบกับปัญหา เราพอที่จะสรุป
ให้เห็นถึงแนวโน้มและข้อจำกัดในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในระบบราชการไทยได้ดังนี้คือ เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย