Page 544 - kpi17968
P. 544
533
และเป็นไปโดยวิธีการที่จำกัดที่สุด (least restrictive mean) ดังนั้น
จึงมีปัญหากฎหมายสี่ประเด็นที่ต้องพิจารณาในคดีนี้คือ
ประเด็นแรก บริษัทเป็นบุคคลหรือไม่ ? ศาลสูงสุดได้ชี้ว่า บริษัท
ก็เป็นบุคคลตามกฎหมาย RFRA โดยการปกป้องสิทธิทางศาสนาของบริษัทก็เพื่อ
จะปกป้องสิทธิทางศาสนาของคนที่มารวมกันเป็นบริษัท มิฉะนั้น เท่ากับว่า คนที่
ต้องการจะทำมาหากินโดยการรวมเป็นบริษัทก็ต้องสละความเชื่อของตนเองทิ้งไป
ประเด็นที่สอง รัฐบาลสร้างภาระอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่? ศาลสูงสุด
ได้ตัดสินว่า ใช่ เพราะเป็นการบังคับให้บริษัทต้องเสียเงินจำนวนมากปีละหลายสิบ
หรือหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่ก็เสียค่าปรับหลายล้านเหรียญสหรัฐเพื่อ
ทำตามกฎหมายนั้น และศาลยังได้ชี้ต่อไปว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะ
ไปบังคับบอกว่าอะไรคือความเชื่อที่ถูกต้องของแต่ละบุคคล หรือของแต่ละศาสนา
ประเด็นที่สาม รัฐทำไปเพื่อประโยชน์อันน่าเชื่อได้ของรัฐหรือไม่?
ศาลสูงสุดได้ยอมรับว่า ใช่ การให้ประกันสุขภาพและการคุมกำเนิดก็ถือเป็น
ผลประโยชน์ที่น่าเชื่อได้
ประเด็นที่สี่ รัฐใช้วิธีที่จำกัดน้อยที่สุดหรือไม่? ศาลได้ตอบว่า ไม่
เพราะยังมีวิธีการอื่นๆ อีกที่รัฐอาจสามารถทำได้ เช่น การให้รัฐจ่ายเงินแทน
บริษัทเหล่านั้น และรัฐบาลก็ไม่ได้แสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ว่าเป็นวิธีที่
จำกัดที่สุด นอกจากนี้ รัฐยังได้ออกกฎที่ว่า องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มี
วัตถุประสงค์ด้านศาสนาเอง (เช่น โบสถ์) ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่อ
สนับสนุนแผนคุมกำเนิดแต่อย่างใด ในเมื่อนิติบุคคลที่แสวงกำไรกับที่ไม่แสวง
กำไรไม่มีอะไรที่ต่างกันในเรื่องนี้ ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทำไมถึงมีมาตรฐานที่
ต่างกันแล้วมาบอกว่า อันหนึ่งเป็นวิธีจำกัดที่สุดในขณะที่อีกอันหนึ่งไม่ใช่
ข้อวิเคราะห์คดีนี้คือ ศาลสูงสุดได้วินิจฉัยอย่างชัดเจนว่า คำพิพากษานี้
จำกัดเฉพาะกับบริษัทที่ถือหุ้นด้วยคนจำนวนน้อย (closely-held corporation) ซึ่ง
โดยมากหมายถึง บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นไม่เกิน 5 คน ไม่ใช้กับบริษัทใหญ่ๆ อย่าง
บริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และจำกัดเฉพาะกับการคุมกำเนิด
บทความที่ผานการพิจารณา