Page 551 - kpi17968
P. 551
540
3.2 อิทธิพลของการตีความรัฐธรรมนูญของศาลสูงสุดสหรัฐต่อ
ศาลรัฐธรรมนูญไทย
ในประเทศไทย คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 15-18/2556 เห็นว่า
ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว
ศาลรัฐธรรมนูญมิได้ตีความรัฐธรรมนูญตามตัวอักษรหรือตามข้อความของ
บทบัญญัติลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งมิได้ตีความโดยยึด
วัตถุประสงค์ที่เห็นได้จากบทบัญญัติลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ แต่ศาล
รัฐธรรมนูญอ้างสถานะ Higher Law ของหลักนิติธรรมที่มิได้มีอยู่ในบทบัญญัติ
ลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ การตีความของศาลรัฐธรรมนูญแนวทฤษฎี
โครงสร้างนิยมมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงหรือต่อเติมบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่มีอยู่
แล้ว เสมือนเป็นการใช้อำนาจนิติบัญญัติของรัฐสภาโดยฝ่ายตุลาการ การตีความ
รัฐธรรมนูญที่ใช้ข้อพิจารณาที่มิได้มีอยู่ในบทบัญญัติลายลักษณ์อักษรของ
รัฐธรรมนูญแบบนี้ ถ้าพิจารณาโดยอาศัยหลักการตีความตามแนวทฤษฎีนิตินิยม
ของสำนักกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ถือว่าคำวินิจฉัยนี้เป็นการไม่ชอบอย่างแน่นอน
และเป็นคำวินิจฉัยที่ยากอย่างยิ่งสำหรับนักกฎหมายที่ยังยึดติดอย่างเหนียวแน่น
กับแนวทฤษฎีนิตินิยมของสำนักกฎหมายบ้านเมืองจะยอมรับกันได้
แต่เหตุผลที่ปรากฏในคำวินิจฉัยเท่ากับศาลรัฐธรรมนูญประกาศชัดเจน
ว่า ในการวินิจฉัยเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ยึดจารีตนิติศาสตร์ของสำนัก
กฎหมายบ้านเมือง ดังที่สถาบันตุลาการไทยได้ยึดถือและสั่งสอนกันมาเป็นเวลา
นานหลายชั่วอายุคนอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยก
หลักนิติธรรมขึ้นมาสนับสนุนคำวินิจฉัยว่าเป็น “ความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำคัญ
ของกฎหมายที่อยู่เหนือบทบัญญัติลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ” หรือที่
ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า สถานะของศาลรัฐธรรมนูญเองเป็นสถานะที่รัฐธรรมนูญ
กำหนด “ให้มีอำนาจหน้าที่สำคัญในการตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจ เพื่อ
ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม” เป็นเหตุผลปรัชญาการเมืองที่ปรุงแต่ง “บทบัญญัติ
ลายลักษณ์อักษร” ของรัฐธรรมนูญจนมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลง “บทบัญญัติ
ลายลักษณ์อักษร” ของรัฐธรรมนูญ จึงมีผลเท่ากับศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประกาศ
บทความที่ผานการพิจารณา