Page 241 - kpi18886
P. 241

233




                   กับสภาพการเมืองการปกครองและบริบทของสังคมไทย หรือที่เรียกว่า

                   “ประชาธิปไตยได้ดุล”


                         ดุลแห่งอำนาจ คือการจัดระบบความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจหนึ่งกับอีก
                   อำนาจหนึ่งอย่างเหมาะสม (เพลินตา ตันรังสรรค์, 2558: 98) ตลอดระยะเวลา
                   8 ทศวรรษที่ผ่านมา สังคมไทยได้พยายามจัดดุลแห่งอำนาจมาโดยตลอด
                   ผ่านเครื่องมือสำคัญคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้ง 20 ฉบับ

                   ความพยายามจัดดุลแห่งอำนาจมักสอดคล้องตามแนวทางที่เห็นว่าดีที่สุดในช่วง
                   เวลานั้น หากแต่การจัดดุลแห่งอำนาจนั้นกลับกลายเป็นการแก้ปัญหาหนึ่งและ

                   นำไปสู่อีกปัญหาในอนาคต เพราะเป็นการมองจากปัญหาเข้าสู่หลักการมิได้มอง
                   จากหลักการเพื่อแก้ปัญหาอย่างครบถ้วนรอบด้าน


                         ในระยะแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ไต้มีการจัด
                   ดุลแห่งอำนาจโดยให้น้ำหนักไปที่ “สภาผู้แทนราษฎร” เป็นอย่างมาก จนอาจ
                   กล่าวไต้ว่าสภาพการเมืองไทยภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระยะแรก
                   มีลักษณะ “อำนาจสูงสุดเป็นของรัฐสภา” (Supremacy of Parliament) โดย

                   พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475
                   อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรก ได้กำหนดโครงสร้างชองรัฐสภาให้เป็นระบบ

                   สภาเดี่ยวคือ สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น โดยสภาผู้แทนราษฎรชุดแรกนี้มีที่มาจาก
                   การแต่งตั้งซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของความไม่ไว้วางใจในองค์กรอำนาจอื่นใด ดังนั้น
                   จึงได้มอบอำนาจให้แก่สภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการตรา
                   กฎหมาย การดูแลควบคุมกิจการของประเทศ การจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งอำนาจ

                   ในการถอดถอนกรรมการราษฎรหรือเจ้าหน้าที่ประจำออกจากตำแหน่ง ตลอดจน
                   ในกรณีที่มีปีญหาใด ๆ ซึ่งต้องพิจารณาวินิจฉัยก็ต้องได้รับความเห็นชอบจาก
                   สภาผู้แทนราษฎรด้วย


                         ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2477 เป็นด้นมา เป็นการจัดดุลแห่งอำนาจ

                   เกี่ยวกับระบบรัฐสภา มาโดยตลอด แทนที่จะจัดดุลแห่งอำนาจที่มีอยู่หลายดุล
                   ไปพร้อมกัน แต่กลับเลือกจัดเฉพาะบางดุลอำนาจเท่านั้น เช่น ในบางยุคบางสมัย
                   ให้น้ำหนักระหว่างรัฐสภากับรัฐบาลอย่างมาก ซึ่งสุดท้ายก็ไม่อาจสร้าง
                   ประชาธิปไตยที่มีความสมดุลขึ้นมาได้ ดังจะเห็นได้จากกรณีที่รัฐบาลหรือ





                                                                     การประชุมกลุมยอยที่ 2
   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246