Page 26 - kpi19900
P. 26
โครงการศึกษาวิจัยวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
สังกัด แต่ละรัฐมีจ านวนเคาน์ตี้แตกต่างกันออกไป ภายใต้เคาน์ตี้สามารถแบ่งออกเป็นพื้นที่หน่วยปกครอง
ท้องถิ่นขนาดเล็กอื่น ๆ ประกอบด้วย ทาวน์ชิพ (township) ทาวน์ (town) ซึ่งท าหน้าที่ก ากับดูแลทุกข์สุขของ
ประชาชน ปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกามีหน่วยปกครองในระดับเคาน์ตี้ประมาณ 3,000 แห่ง และหน่วย
ปกครองที่เทียบเท่าเคาน์ตี้ประมาณ 13,000 แห่ง โดยกลไกการบริหารราชการของเคาน์ตี้ใช้รูปแบบ
คณะกรรมการ (Board of Commission) รูปแบบนี้ประชาชนจะเลือกตั้งคณะกรรมการตั้งแต่ 2-100 คน
ขึ้นอยู่กับขนาดของเคาน์ตี้ คณะกรรมการนี้ท าหน้าที่ทั้งนิติบัญญัติและบริหาร เป็นผู้พิจารณาออกกฎหมาย
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปี บริหารงานภายในเขตเคาน์ตี้ ตรวจสอบและควบคุมการท างานของแผนก
ต่าง ๆ ตลอดจนอ านาจในการบริหารงานบุคคลของเคาน์ตี้
ที่มาของผู้บริหารเคาน์ตี้ไม่ได้มาจากระบบการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว โดยรูปแบบผู้บริหารเคาน์ตี้ใน
ปัจจุบันมี 3 รูปแบบ ประกอบด้วย (1) ผู้จัดการ (County Manager) โดยคณะกรรมการคัดเลือกและแต่งตั้ง
ผู้จัดการมืออาชีพให้ปฏิบัติงานตามข้อก าหนดที่คณะกรรมการระบุไว้ ผู้จัดการเคาน์ตี้มีหน้าที่เตรียมร่าง
งบประมาณและการจัดท าโครงการ และรวมถึงการบริหารงานประจ าวัน รูปแบบผู้จัดการเคาน์ตี้โดยทั่วไปเป็น
ลักษณะการจัดการปกครองในพื้นที่ที่มีประชากรสูง เช่น ไมแอมี เดดเคาน์ตี้ มลรัฐฟลอริด้า (Miami-Dade
County, Florida) (2) ผู้บริหารเคาน์ตี้ (County Administrator) มีความคล้ายคลึงรูปแบบการบริหารโดย
ผู้จัดการเคาน์ตี้ ผู้บริหารเคาน์ตี้เป็นรูปแบบการบริหารที่ใช้ในเคาน์ตี้หลายแห่งมากกว่ารูปแบบแรก ข้อ
แตกต่างีท่ส าคัญ คือ ผู้บริหารเคาน์ตี้ไม่มีอ านาจแต่งตั้งและตรวจสอบหัวหน้าแผนก และ (3) ผู้บริหารเคาน์ตี้
ที่มาจากการเลือกตั้ง (Council – Elected Executive Model) รูปแบบนี้ประชาชนเลือกตั้งทั้งสมาชิกสภา
เคาน์ตี้และผู้บริหารของเคาน์ตี้แยกออกจากกัน ท าให้มีการแยกอ านาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับอ านาจ
บริหารออกจากกันเหมือนกับโครงสร้างของรัฐบาลกลาง
(2) การเลือกตั้งในระดับมิวนิซิปอลหรือซิตี้
หน่วยการปกครองท้องถิ่นในระดับมิวนิซิปอลต่างจากเคาน์ตี้ในแง่ของต้นก าเนิดและภารกิจหน้าที่ ซิตี้
มีสถานะทางกฎหมายด าเนินงานภายใต้กฎบัตรที่ออกโดยมลรัฐ (charter) โดยมากซิตี้ตั้งขึ้นโดยการเรียกร้อง
และมีการท าประชามติจากภาคประชาชน นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถออกเสียงเพื่อเลือกชื่อและรูปแบบ
โครงสร้างของซิตี้ได้เช่นเดียวกันผ่านทางกระบวนการท าประชามติ โดยทางมลรัฐจะมีการออกกฎหมายมา
รองรับและจัดตั้งซิตี้เพื่อให้มีการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ประจ าในการจัดท าบริการสาธารณะให้แก่ประชาชน ดังนั้น
กฎบัตรที่ออกโดยมลรัฐจึงสอดคล้องกับลักษณะความต้องการของประชาชนในแต่ละท้องที่ในแง่ที่คล้ายคลึงกับ
เคาน์ตี้นั้น ซิตี้เป็นหน่วยการปกครองท้องถิ่นที่ตั้งขึ้นมามีภาระหน้าที่หลายอย่าง (General Purpose) ส่วนใน
แง่ของความแตกต่าง ซิตี้มีอ านาจในการตัดสินใจมากกว่าเคาน์ตี้ รวมถึงการมีสถานะเป็นนิติบุคคลที่ถูกสร้าง
ขึ้นมาสามารถถือครองและขายทรัพย์สิน ยื่นฟ้องหรือถูกฟ้อง กู้ยืมเงินหรือให้กู้ยืมยืมเงิน หรือท าสัญญาหรือ
รวมท าธุรกิจได้
โครงสร้างและอ านาจหน้าที่ของซิตี้ถูกก าหนดไว้ในกฎบัตร (Charter) ซึ่งตราขึ้นโดยมลรัฐ ทุกซิตี้ถูก
จัดตั้งโดยมลรัฐแม้จะเกิดจากการริเริ่มของประชาชนก็ตาม ธรรมนูญที่ให้สิทธิแก่ประชาชนในมลรัฐต่าง ๆ
- 21 -