Page 29 - kpi20686
P. 29

ห น้ า  | 19


                       ภายในของคณะกรรมการส ารวจความคิดเห็นของประชาชนที่ให้อ านาจคณะกรรมการที่จะพิจารณา
                       เรื่องที่มีความเร่งด่วนได้ โดยมีองค์ประชุมของกรรมการเพียง 3 คน จากกรรมการทั้งหมด 9 คน ซึ่ง
                       ศาลปกครองสูงสุดของฝรั่งเศสมีความเห็นในเรื่องนี้ว่า มติของคณะกรรมการไม่ว่าองค์กรใดจะมีผล
                       ต่อเมื่อมีกรรมการมาประชุมกึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย ศาลปกครองสูงสุดจึงมีค าพิพากษาให้ยกเลิกกฎ

                       ภายในดังกล่าว (คดีลงวันที่ 5 กรกฎาคม 1985) หรือหลักเรื่องความโปร่งใส ตัวอย่างเช่น กฎหมาย
                       จัดตั้งคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ก าหนดไว้อย่างชัดแจ้งให้ คณะ
                       กรรมการฯ มีอ านาจที่จะออกกฎภายในได้และได้บัญญัติต่อไปว่า กฎภายในนั้นต้องมีการแจ้งให้
                       มหาชนทราบ ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใส ซึ่งหลักเกณฑ์เหล่านี้ได้ขยายไปใช้บังคับกับกรณีขององค์กรอิสระ

                       อื่น ๆ ด้วย
                                      (ง) งบประมาณและบุคลากร
                                        1. งบประมาณ
                                        เนื่องจากองค์กรอิสระของประเทศฝรั่งเศส มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคลองค์กร

                       อิสระ ส่วนใหญ่จึงไม่มีทรัพย์สินและแหล่งเงินเป็นของตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากองค์กรอิสระบางองค์กร
                       ของสหรัฐอเมริกาที่สามารถรับเงิน (ค่าธรรมเนียม) จากผู้ประกอบการที่อยู่ในการดูแลขององค์กร
                       อิสระได้ภายใต้อัตราที่กฎหมายก าหนด ซึ่งมีส่วนช่วยให้องค์กรอิสระเกิดความเป็นอิสระอย่างแท้จริง

                       รวมถึงองค์กรอิสระ 3 องค์กรของฝรั่งเศส ได้แก่ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยรัฐ
                       บัญญัติหมายเลข 78 - 17 ให้อ านาจที่จะเก็บค่าธรรมเนียมมาเป็นของตนเองจากการให้บริการ หรือ
                       คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามรัฐกฤษฎีกาหมายเลข 85 - 809 ลงวันที่ 31
                       กรกฎาคม 1985 หรือคณะกรรมการควบคุมการสื่อสารตามรัฐบัญญัติหมายเลข 96 - 659
                                        ส าหรับองค์กรอิสระของฝรั่งเศสที่กฎหมายไม่ได้ให้อ านาจที่จะมีรายได้เป็น

                       ของตนเอง จะใช้เงินแผ่นดินของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอ านาจหน้าที่ขององค์กรอิสระนั้น เช่น
                       คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า จะใช้เงินของกระทรวงการคลัง หรือคณะกรรมการเกี่ยวกับการ
                       ประเมินมหาวิทยาลัย จะใช้เงินของกระทรวงศึกษาธิการ ในกรณีที่อ านาจหน้าที่ขององค์กรอิสระคาบ

                       เกี่ยวกับงานของหลายกระทรวงองค์กรนั้น จะใช้เงินของส านักนายกรัฐมนตรี ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็น
                       เรื่องทางเทคนิค เพื่อให้ได้เงินมาใช้ในการด าเนินงานด้วยเหตุว่า องค์กรอิสระนั้นมิได้เป็นนิติบุคคล
                       อย่างไรก็ดี มีข้อควรพิจารณาว่าการใช้เงินของกระทรวงต่าง ๆ นั้น จะท าให้เกิดอ านาจก ากับดูแลขึ้น
                       หรือไม่ ด้วยเหตุนี้กฎหมายจึงได้ก าหนดบังคับให้รัฐต้องจัดงบประมาณให้แก่องค์กรอิสระด้วย เช่น

                       กรณีรัฐบัญญัติหมายเลข 89 - 25 บัญญัติว่า กรณีคณะกรรมการกิจการวิทยุและโทรทัศน์ หรือ
                       คณะกรรมการควบคุมการสื่อสารของบประมาณประจ าปีเพื่อความจ าเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อ
                       รัฐบาลจัดท ารัฐบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปี ให้บรรจุจ านวนเงินงบประมาณที่คณะกรรมการ
                       กิจการวิทยุและโทรทัศน์ และคณะกรรมการควบคุมการสื่อสารขอไว้ด้วย

                                        แม้จะไม่ปรากฏว่าจ านวนเงินงบประมาณที่รัฐจัดให้แก่องค์กรอิสระมีจ านวน
                       เท่าใด แต่จากข้อความประชดประชันที่ปรากฏในรายงานประจ าปีของคณะกรรมการกิจการวิทยุและ
                       โทรทัศน์ ซึ่งกล่าวว่า ภายใต้เงินงบประมาณที่ได้รับมานั้นท าให้องค์กรอิสระไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่
                       ตามที่มีอยู่ได้ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า เงินงบประมาณรัฐจัดให้แก่องค์กรอิสระมีจ านวนน้อยมาก ขนาด

                       ที่องค์กรอิสระไม่สามารถด าเนินกิจกรรมตามอ านาจหน้าที่ได้เต็มที่
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34