Page 34 - kpi20686
P. 34
ห น้ า | 24
ขององค์กรอิสระอย่างชัดแจ้งถึงสองครั้ง คือ ในคดีของคณะกรรมการกิจการวิทยุและโทรทัศน์และ
คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ค าพิพากษาลงวันที่ 17 มกราคม 1989 และลง
วันที่ 28 กรกฎาคม 1989)
ศาลรัฐธรรมนูญได้วางหลักการให้อ านาจในการลงโทษแก่องค์กรอิสระ จึงวิเคราะห์
ได้สองประการ คือ ประการแรก เป็นกรณีที่จ าเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง ส่วนประการที่
สอง คือ โทษนั้นต้องไม่กระทบต่อเสรีภาพของผู้รับค าสั่ง
ส าหรับการพิจารณาเพื่อออกค าสั่งลงโทษนั้น ต้องเคารพหลักกฎหมายทั่วไปด้วย คือ
ต้องให้สิทธิโต้แย้งแก่ผู้จะรับค าสั่ง รวมถึงการให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแก่ผู้จะถูกลงโทษและต้องให้
สิทธิผู้รับค าสั่งที่จะอุทธรณ์ค าสั่งต่อศาลได้ด้วย และโทษนั้นต้องเป็นโทษที่กฎหมายก าหนดไว้และ
อัตราโทษ ต้องได้สัดส่วนกับการกระท าความผิด
เมื่อได้ตรวจสอบแล้วว่า มีองค์กรอิสระเพียงไม่กี่องค์กรที่มีอ านาจลงโทษ คือ
คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์คณะกรรมการกิจการธนาคาร คณะกรรมการ
กิจการวิทยุและโทรทัศน์ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า คณะกรรมการว่าด้วยการสื่อสารและ
คณะกรรมการประกันภัย จึงสามารถแบ่งอ านาจลงโทษขององค์กรอิสระได้เป็นสองประเภท คือ
1. โทษที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ เช่น
- คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีอ านาจออกค าสั่งให้
บริษัทหลักทรัพย์หยุดประกอบกิจการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
- คณะกรรมการกิจการธนาคารมีอ านาจขีดชื่อสถาบันการเงินออกจาก
ทะเบียนได้
- คณะกรรมการว่าด้วยการสื่อสารมีอ านาจออกค าสั่งให้ลดเวลาการ
ออกอากาศของผู้ประกอบการได้และมีอ านาจเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นได้ด้วย
- คณะกรรมการกิจการวิทยุและโทรทัศน์มีอ านาจเช่นเดียวกับคณะกรรมการ
ว่าด้วยการสื่อสาร
2. โทษปรับทางปกครอง
- คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีอ านาจปรับเป็นเงิน
จ านวนห้าล้านฟรังค์ และหากปรากฏว่ามีผลก าไรจากการกระท าความผิดโทษปรับจะสูงขึ้นอีกเป็นสิบ
เท่า
- คณะกรรมการกิจการวิทยุและโทรทัศน์มีอ านาจปรับเป็นจ านวนร้อยละสาม
ของจ านวนเงินที่ได้มาจากการประกอบการ
- ผู้ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์การแข่งขันทางการค้าจะได้รับโทษปรับเป็นจ านวนร้อย
ละห้าของจ านวนเงินที่ได้มาจากการประกอบการ และหากพิสูจน์ได้ว่าการกระท าความผิดดังกล่าว
มิได้เกิดจากการกระท าของนิติบุคคลผู้กระท าต้องรับโทษปรับสิบล้านฟรังค์
การลงโทษปรับทางปกครองมิได้ท า ให้ผู้กระท าผิดหลุดพ้นจากโทษปรับทาง
อาญา ผู้กระท าความผิดอาจได้รับโทษทั้งสองประการในการกระท าความผิดเดียวกัน แต่ต้องไม่เกิน
อัตราสูงสุดที่กฎหมายก าหนด

