Page 33 - kpi20686
P. 33
ห น้ า | 23
นอกจากนั้น องค์กรอิสระยังมีอ านาจเรียกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูล
ด้วย เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา มีอ านาจเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับส านวนมาชี้แจง บาง
องค์กรอิสระก็มีอ านาจเรียกภาคเอกชนมาชี้แจงได้ เช่น กรณีของคณะกรรมการคุ้มครองความ
ปลอดภัยของผู้บริโภคที่มีอ านาจเรียกผู้ประกอบการเอกชนมาชี้แจง หรือคณะกรรมการก ากับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่มีอ านาจเรียกผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทที่ตรวจสอบมาชี้แจง
กฎหมายจัดตั้งองค์กรอิสระบางองค์กรได้บัญญัติให้อ านาจในการด าเนินคดีบาง
ประการ เช่น อ านาจเข้าไปในสถานประกอบการเพื่อการสืบสวนสอบสวน ได้แก่ อ านาจของ
คณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (รัฐบัญญัติ
หมายเลข 86 - 1243) ซึ่งอ านาจนี้เป็นอ านาจที่ประเทศฝรั่งเศสมอบไว้ให้แก่ตุลาการเท่านั้น
การมอบอ านาจในการควบคุมให้แก่องค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ านาจการสืบสวน
สอบสวน การประกอบกิจการที่ไม่ถูกต้องของผู้ประกอบการนั้น มีลักษณะเป็นการให้อ านาจบังคับ
การแก่องค์กรอิสระ ซึ่งกระทบต่อหลักการส าคัญที่ว่า เสรีภาพของปัจเจกชนอยู่ภายใต้การคุ้มครอง
ของอ านาจตุลาการ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญยึดถือหลักการนี้ในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้อ านาจ
ขององค์กรอิสระ ดังนั้น การที่องค์กรอิสระเข้าไปในสถานประกอบการเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์ก็ดีหรือ
เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารหรือวัตถุที่เกี่ยวข้องก็ดี องค์กรอิสระจะใช้อ านาจของตนแต่เพียงล าพังไม่ได้
ต้องขอให้ศาลอนุญาตเสียก่อนและต้องมีต ารวจฝ่ายคดีเข้าร่วมในการด าเนินการนั้นด้วย
1.2.2 อ านาจในการลงโทษ
การลงโทษในที่นี้ เป็นการลงโทษตามความหมายกว้าง คือ หมายถึงการด าเนินการ
ใด ๆ ขององค์กรอิสระต่อหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนที่ตนมีอ านาจดูแล ไม่ว่าจะเป็นการ
ด าเนินการที่มีผลกระทบหรือก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวแห่งสิทธิของผู้ที่ได้รับแจ้งหรือไม่ก็ตาม การ
ด าเนินการขององค์กรอิสระที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบหรือการเคลื่อนไหวแห่งสิทธิของผู้ที่ได้รับแจ้ง
ได้แก่ การเตือน เช่น คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเตือนหน่วยงานที่ละเลยหลักเกณฑ์การ
ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคณะกรรมการกิจการธนาคารที่มีอ านาจ “ว่ากล่าว” สถาบันการธนาคารที่
กระท าผิดจริยธรรม ซึ่งอาจจะ“เตือน” ก่อน “ว่ากล่าว” ก็ได้หรือคณะกรรมการประกันภัยที่จัดให้มี
“การเฝ้าระวังเป็นพิเศษ” ส าหรับบริษัทประกันภัยที่ไม่เคารพต่อหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการก าหนด
จ านวนสินทรัพย์ที่เป็นประกัน การด าเนินธุรกิจ ซึ่งการลงโทษตามที่กล่าวมานี้ ไม่มีผลทางกฎหมาย
เช่นเดียวกับค าสั่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบหรือการเคลื่อนไหวแห่งสิทธิ
ในระยะแรก ของการจัดให้มีองค์กรอิสระ รัฐบัญญัติได้ให้อ านาจคณะกรรมการ
ควบคุมความโปร่งใสของการพิมพ์โฆษณาในการที่จะลงโทษผู้พิมพ์ผู้โฆษณาได้ ซึ่งโทษเช่นว่านี้เป็น
การกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้ตัดสินว่า กฎหมายไม่สามารถ
มอบอ านาจดังกล่าวนี้ให้แก่คณะกรรมการฯ ได้ (ค าตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 10 และ 11
ตุลาคม 1984) อีกสองปีต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มผ่อนคลายข้อห้ามดังกล่าวลง เห็นได้จากการที่
ศาลรัฐธรรมนูญมิได้ยกขึ้นว่า อ านาจในการลงโทษของคณะกรรมการเกี่ยวกับการสื่อสารและเสรีภาพ
แห่งชาติขัดต่อรัฐธรรมนูญ (ค าพิพากษาลง วันที่ 18 กันยายน 1986) และในปีถัดมาก็ได้วินิจฉัย
เกี่ยวกับอ านาจในการลงโทษของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าในแนวทางเดียวกัน (ค าพิพากษาลง
วันที่ 23 มกราคม 1987) และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีค าพิพากษาที่ยอมรับอ านาจในการลงโทษ

