Page 35 - kpi20686
P. 35

ห น้ า  | 25


                                      3. อ านาจในการออกกฎระเบียบ
                                      ในระยะแรก มีการถกเถียงกันในวงการนิติศาสตร์ว่า การที่รัฐให้อ านาจในการ
                       ออกกฎระเบียบกับองค์กรอิสระบางองค์กรที่มีอ านาจด าเนินการ (บริหาร) และอ านาจตัดสิน (ตุลา
                       การ) ย่อมท าให้องค์กรอิสระนั้นรวมอ านาจทั้งสาม คือ อ านาจนิติบัญญัติ อ านาจบริหาร และอ านาจ

                       ตุลาการไว้ในตัวเอง ซึ่งเป็นการขัดกับหลักการแบ่งแยกอ านาจ
                                      ในระยะต่อมา แนวความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไป โดยเห็นว่า องค์กรอิสระนั้นอยู่
                       ระหว่างรัฐที่มีอ านาจออกกฎ (นิติบัญญัติและบริหาร) กับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือ
                       เอกชน องค์กรอิสระบางองค์กรจึงควรจะมีอ านาจที่ช่วยเหลือรัฐ ในส่วนนี้ได้เห็นได้จากค าพิพากษา

                       ของศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 17 มกราคม 1989 ที่ตัดสินว่า คณะกรรมการกิจการวิทยุและโทรทัศน์มี
                       อ านาจในการออกกฎว่าด้วยการควบคุมดูแลสื่อวิทยุและโทรทัศน์และในปี 1996 ในรัฐบัญญัติจัดตั้ง
                       คณะกรรมการควบคุมการสื่อสารได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ให้คณะกรรมการนี้มีอ านาจออกกฎควบคุม
                       การสื่อสารได้จึงกล่าวได้ว่า องค์กรอิสระมีอ านาจในการออกกฎระเบียบเพื่อดูแลกิจการของรัฐในบาง

                       กิจการด้วย
                                2. ประเทศสหรัฐอเมริกา
                                กฎหมายจัดตั้งองค์กรก ากับอิสระ จะก าหนดอ านาจหน้าที่ที่ชัดเจนให้แก่องค์กร โดยมี

                       ภาระหน้าที่และวัตถุประสงค์การจัดตั้งที่หลากหลายครอบคลุมในหลายด้าน เช่น เป็นองค์กรหลักของ
                       รัฐบาลด้านเศรษฐกิจ ด้านการส่งเสริมสิทธิทางสังคมหรือทางเศรษฐกิจของประชาชน ด้านการจัดสรร
                       ทรัพยากรจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง ด้านโทรคมนาคม ด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้าน
                       การคุ้มครองสิทธิพลเมือง โดยส่วนใหญ่สภาคองเกรสจะจัดตั้งองค์กรก ากับอิสระขึ้น เพื่อรับผิดชอบ
                       งานที่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะใช้กลไกตามปกติรับผิดชอบได้หรืองานที่ต้องอาศัยการประสานงาน

                       หรือความร่วมมือจากองค์กรหลายฝ่าย
                                กฎหมายที่สภาคองเครสตราขึ้นได้ให้อ านาจแก่องค์กรก ากับอิสระในลักษณะที่เป็นอ านาจ
                       ผสมระหว่างการออกกฎ (Rulemaking) และการวินิจฉัยสั่งการ (Adjudicatory) จึงกล่าวได้ว่า

                       องค์กรก ากับอิสระ แม้จะเป็นองค์กรในฝ่ายบริหาร แต่ก็มีอ านาจนิติบัญญัติและอ านาจตุลาการแฝงอยู่
                       บางส่วน อ านาจในการออกกฎ คือ อ านาจในการตรากฎที่มีผลบังคับใช้เป็นการทั่วไป ซึ่งกฎที่องค์กร
                       ก ากับอิสระตราขึ้นมีผลบังคับใช้เทียบเท่าเป็นกฎหมายระดับสหรัฐหรือกฎหมายกลางของประเทศ
                       (Federal Law) อ านาจในการวินิจฉัยสั่งการ คือ อ านาจในการก าหนดสิทธิและหน้าที่ให้แก่เอกชน

                       เช่น การออกใบอนุญาต การออกค าสั่ง และการลงโทษ เมื่อมีการฝ่าฝืนค าสั่งทั้งนี้ในการออกกฎและ
                       การวินิจฉัยสั่งการองค์กรก ากับอิสระจะต้องด าเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาทางปกครอง
                       (Administrative Procedure Act: APA) ส าหรับเขตอ านาจในการท าหน้าที่นั้น กฎหมายที่สภาคอง
                       เกรสตราขึ้น อาจก าหนดให้องค์กรก ากับอิสระมีอ านาจหน้าที่ครอบคลุมทั้งประเทศ หรือมีอ านาจ

                       เฉพาะในมลรัฐใดมลรัฐหนึ่งหรือหลายมลรัฐก็ได้ (นิพนธ์ ฮะกีมี, ม.ป.ป.).
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40