Page 79 - kpi20858
P. 79
36
กลมกลืนระหว่างคุณค่าทางเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพุทธปรัชญาอันลึกซึ้ง กับคุณค่าทางรูปทรงซึ่งเป็น
อิสระจากการยึดติดอยู่กับความถูกต้องสมจริงตามธรรมชาติ
ภาพจิตรกรรมไทยมักมีการแสดงออกในลักษณะแบน และไม่ค านึงถึงการสร้างบรรยากาศเพื่อ
ผลักระยะ จึงท าให้ต่างไปจากจิตรกรรมแบบตะวันตก นอกจากนี้ยังมิได้ให้ความส าคัญกับการแสดง
ภาพที่สมจริงทางแสงและเงา ภาพในจิตรกรรมเหมือนมีแสงเงาในตัวเองทุกด้านทุกรูปทรง ทุกสิ่งในทุก
ส่วนของผนังมีความชัดเจน ภาพไม่แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับบรรยากาศของกาลเวลา โดยมากบุคคล
52
ส าคัญของเรื่อง ซึ่งมักเป็นชนชั้นสูงจะได้รับการก าหนดรายละเอียดอย่างประณีตบรรจง ประกอบกับมี
การใช้สีเพื่อขับเน้นความส าคัญของบุคคลให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น สีผิวกายสีเนื้ออ่อน สวมใส่เครื่อง
ประดับซึ่งเกิดจากการปิดทองแล้วตัดเส้น เป็นต้น
2.1.2.2 ขนบนิยมในงานประติมากรรมไทย
ประติมากรรมไทยเป็นการน าเสนอผลงานทางทัศนศิลป์ แขนงหนึ่ง ประกอบไปด้วยวิธีการปั้น
การแกะสลัก ตลอดจนการหล่อ การสร้างประติมากรรมตามขนบนิยม หรืองานประติมากรรมแบบ
ดั้งเดิมนั้นเป็นเช่นเดียวกันกับงานจิตรกรรม ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองต่อความศรัทธาทางศาสนา
ตลอดจนสถาบันกษัตริย์เป็นหลัก เช่น พระมหากษัตริย์ทรงสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้เป็นพุทธบูชา หรือ
สร้างเทวรูปเพื่อเป็นเทวบูชา อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ผู้คนในสังคม อีกทั้งยังมีการสร้าง
ลวดลายปูนปั้น เพื่อประดับตกแต่งศาสนสถาน ตลอดจนพระราชวังให้เกิดความงดงามวิจิตร อาจ
กล่าวได้ว่าประติมากรหรือช่างในอดีตสร้างสรรค์ผลงานตั้งแต่ขนาดเล็ก อาทิ สิ่งตกแต่ง หรือเครื่องลาง
ของขลัง ไปจนถึงผลงานที่เป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ เช่น การหล่อพระพุทธรูป หรือเทวรูป เป็นต้น
ทั้งนี้ประติมากรรมของไทยแบบดั้งเดิมของไทย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ประติมากรรมรูปคน ได้แก่ การสร้างเทวรูปตามคติฮินดู การสร้างพระพุทธรูป
เทวดา นางฟ้า ยักษ์ตามคติพุทธศาสนา ฝ่ายหินยาน และมหายาน มักสร้างด้วยทองสัมฤทธิ์
ปูนปั้น ดินเผา และไม้จ าหลัก
ประเภทที่ 2 ประติมากรรมตกแต่ง ส่วนใหญ่สร้างไม้ และปูนปั้น ให้เป็นเครื่องประดับ
ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในโบสถ์วิหาร ปราสาทราชวัง เช่น ลายหน้าบัน คันทวย บัวหัวเสา
ลายกรอบซุ้มประตูหน้าต่าง ฯลฯ นอกจากนั้นยัง ประกอบฐานสถูปเจดีย์ ซุ้มพระพุทธรูป และ
52 สุรศักดิ์ เจริญวงศ์, ขนบนิยมในการสร้างสรรค์และการน าเสนอจิตรกรรมไทยประเพณี, 8-9.