Page 164 - 21736_Fulltext
P. 164
143
ก็มีไม่มาก และเราเห็นว่ารุ่นพี่นั้นสามารถไกล่เกลี่ยได้ มีวุฒิภาวะมากกว่ารุ่นน้อง เราจึงยึดหลักว่าถ้า
จะจัดอบรมครั้งใด เราจะเด็ก ม.ปลาย เป็นแกนนำในการไกล่เกลี่ย ปี 54 นั้นเราการอบรม และฝึก
เด็กๆ เวลาศาลมีการอบรมเราก็จะส่งนักเรียนไปอบรมเพื่อเสริมความรู้เพิ่มเติม หลังจากตรงนั้นมาเรา
ดำเนินการจนปัญหาต่างๆ นั้นลดน้อยลง เราจึงคิดว่ารูปแบบกระบวนการไกล่เกลี่ยนี้น่าจะเป็น
นวัตกรรมของโรงเรียนเราได้ เราจึงรวบรวมรูปแบบการไกล่เกลี่ยนี้ส่งเข้าการประกวดนวัตกรรม 1
โรงเรียน 1 นวัตกรรม ในปี 2555 เราได้รับรางวัลในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
รูปแบบกระบวนการของเรานั้น ตอนแรกคงจะลงสู่เด็กเลยนั้นคงยังไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์
และเราสามารถจับนักเรียนได้ เราก็คิดว่าเด็กนั้นต้องพัฒนาได้ อับดับแรกจะให้ครูที่เรียนรู้เรื่องการ
ไกล่เกลี่ยเข้ามาพูดคุยกับนักเรียนก่อน และถ้าต่างฝ่ายต่างยอมรับก็จะเข้าสู่กระบวนการ จากนั้นจะ
เสนอ อาจารย์ ว่าคู่กรณียอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และให้ทีมเด็กที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเข้ามาไกล่
เกลี่ย ประโยชน์ที่ได้ไม่ใช้ได้เฉพาะเด็กที่เข้ามาไกล่เกลี่ย เด็กที่เป็นผู้ทำการไกล่เกลี่ยก็ได้รับประโยชน์
ด้วย อย่างน้อยเขาจะเกิดความภูมิใจว่าทำให้เพื่อนปรองดองกันได้ ตอนหลังเราก็ทราบว่ากลุ่มนี้เขา
ต้อวงมีวาทศิลป์ในการพูดด้วย ถึงจะทำการไกล่เกลี่ยได้ ต้องกล้าคิด กล้าแสดงออก เราก็ทำมาเรื่อยๆ
แต่ปัญหาคือเราไม่ค่อยมีเคส เราจะทำคู่มือมาตรฐานแนวการไกล่เกลี่ยไว้ให้นักเรียนได้ศึกษาด้วย ทุก
ปีเราจะมีการอบรม พอปี 2555 เราได้รับเลือกจากเขตว่าเป็นนวัตกรรมดีเด่นของเขตการศึกษานี้
ปี 2556 เราก็ขยายผลโดยการจัดอบรมอีกเช่นเดียวกัน เชิญพี่อู๊ดมาเป็นวิทยากร และมีศาล
ร่วมด้วย และเราได้เชิญโรงเรียนต่างๆ ใน จ.นนทบุรี อย่างน้อยก็ตัวแทนกรรมการนักเรียน 2 คน และ
ครู 1 ท่าน มาร่วมอบรม ปี 56 นั้น อบรมเกือบ 100 คน ของเรานั้นมี 60 กว่าคน และโรงเรียนอื่นมา
โรงละ 3 คน แล้วแต่เขาจะส่งมา ทาง ก.ศึกษาธิการได้จัดอบรมระดับประเทศ โดยให้ส่งครูเข้าอบรม
เป็นวิทยากรการไกล่เกลี่ย บังเอิญเขามาอบรมที่ จ.นนทบุรี ดังนั้น ปี 56 นั้นเราจะมีอบรมนักเรียน
และขยายผลให้โรงเรียนต่างๆ ใน จ.นนทบุรี และส่งนักเรียนเข้าร่วมอบรมกับศาลเวลาที่ศาลมีอบรม
และส่งครูเข้าอบรมกับกระทรวงฯ
ปีนี้นั้นเราก็มองว่าเด็กที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการไกล่เกลี่ย เป็นระดับ ม.ปลาย ต้องมี
วาทศิลป์ในการพูด มีความรับผิดชอบ จึงให้ระดับ ม.ปลายคัดเลือกนักเรียน ระดับละ 10 คน รวม 30
คน รวมกับคณะกรรมนักเรียนอีก 50 คน แต่ครั้งนี้เราไม่ได้เชิญพี่อู๊ดมา เพราะเราคิดว่าครูของเรา
พร้อมแล้วเพราะไปอบรมมาแล้วและได้ฟังจากพี่อู๊ดมาแล้วหลายครั้ง เราจึงจัดอบรมเองโดยให้
อาจารย์ เป็นคนนำเสนอเรื่องของศูนย์ฯก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร และให้เด็กที่เคยไกล่เกลี่ย
มาแล้ว มาสาธิตให้เด็กปัจจุบันได้ดูการไกล่เกลี่ย สร้างบทบาทสมมติขึ้น เพราะเด็กก็จะจบไปเป็นรุ่นๆ
โดยที่ปีนี้จัดอบรมไปเมื่อเดือนมิถุนายน ต้องจัดอบรมตั้งแต่ต้นเทอมเพื่อให้เด็กทำงานได้ โดยตั้งแต่ปี
55-57 ปีมีเคสไม่เกิน 3 เรื่อง ส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องแต่งการผิดระเบียบ มาสายมากกว่าซึ่งไม่ได้
เกิดการโต้แย้งกัน และครูของเราก็ไม่ได้มีการขัดแย้งกัน ผู้ปกครองก็เข้าใจ ซึ่งบางโรงนั้นอาจจะมี