Page 64 - 21736_Fulltext
P. 64
43
พูดคุยกัน มีการตั้งข้อสังเกตว่าการบรรลุข้อตกลงที่สูงมากเกินไปอาจเกิดขึ้นจากการใช้วิธีการบังคับก็
เป็นไป บางคนก็ต้องการเพียงแค่ข้อตกลงกันด้วยวาจา ตกลงกันด้วยคำพูดก็ถือว่าสำเร็จแล้ว Kressel
(2006) วัดความสำเร็จจาก ความพึงพอใจของผู้รับบริการ อัตราของบันทึกข้อตกลงและการปฏิบัติ
ตามข้อตกลง Bercovitch (2009) นิยามความสำเร็จสามารถทำได้ทั้งจากความรู้สึกที่เป็นอัตวิสัย
(Subjective) และตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่เป็นภววิสัย (Objective) อีกทั้ง Morris (2004) และ Mayer
(2000) ได้กล่าวถึงความสำเร็จของการไกล่เกลี่ยโดยคนกลางไว้ ประมวลสรุปได้คือ
1. คู่กรณีรู้สึกว่าพึงพอใจต่อกระบวนการและผลลัพธ์
คู่กรณีรู้สึกพึงพอใจต่อกระบวนการหรือผลลัพธ์ของการไกล่เกลี่ย ว่ามีความเป็นธรรม
นักวิชาการหลายคนพยายามสร้างตัวชี้วัดความเป็นธรรม เช่น กระบวนการที่เป็นกลาง การควบคุม
การโต้เถียง ความเท่าเทียมในการพูดคุย ความเห็นพ้องต้องกันในผลลัพธ์ การเห็นพ้องต้องกันในการ
ยอมรับบรรทัดฐาน นอกจากนี้ ยังรวมถึงการปรับปรุงกระบวนการ การเข้าถึงข้อมูลที่เท่าเทียมกัน
2. ประสิทธิผล
เกิดการเปลี่ยนแปลงในบางสิ่ง อย่างน้อยผลที่ได้ก็เป็นไปในด้านบวก เช่น เป็นการ
เปลี่ยนแปลงจากความรุนแรงมาสู่พฤติกรรมการไม่ใช้ความรุนแรง หรือการลงนามในบันทึกข้อตกลงที่
ยั่งยืน การยอมรับการหยุดยิง การกลับมาคืนดีกัน การพัฒนาสัมพันธภาพจนมีบรรยากาศที่ช่วยให้
การไกล่เกลี่ยดำเนินการต่อไปได้ การเห็นด้วยกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ หรือ
มาตรการต่างๆ
3. ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพเน้นที่ต้นทุนของการจัดการความขัดแย้ง ทรัพยากรที่ใช้ และเวลา
ข้อตกลงที่ได้ถ้าหากใช้เวลาที่รวดเร็วเกินไป หรือเนิ่นนานเกินไปก็ถือว่าเป็นปัญหา ประสิทธิภาพจึงมี
ความสำคัญควบคู่ไปกับประสิทธิผล
2.1.5.2. ความยากหรือง่ายในการไกล่เกลี่ยโดยคนกลาง
การไกล่เกลี่ยโดยคนกลางในแต่ละเรื่องก็มีความแตกต่างกันไป เรื่องใดยากหรือง่าย
ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็น
1. คู่กรณีมีอะไรที่เหมือนกันมากน้อยเพียงใด ถ้ามีความเหมือนกันมากก็จะแก้ไข
ปัญหาได้ง่ายขึ้น เพราะธรรมชาติของคนชอบคนที่มีอะไรเหมือนๆหรือคล้ายกับเรา สังเกตได้จากคนที่
ชอบอะไรเหมือนๆกัน เวลาคุยกันจะคุยกันได้ยาวนาน แต่ตรงกันข้ามกับคนที่ชอบไม่เหมือนกัน ก็ไม่รู้