Page 26 - 22432_fulltext
P. 26
25
สัญชาติปรากฏให้เห็น เพื่อให้เห็นภาพ ภายใต้มาตรา 5 ของ พ.ร.บ.การแข่งขันฯ พ.ศ. 2560 นั้น “ธุรกิจ”
หมายความว่า “กิจการอันด าเนินการเพื่อประโยชน์ทางการค้าในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม
การเงิน การประกันภัย และการบริการ และให้หมายความรวมถึงกิจการอื่นตามที่ก าหนด โดยกฎกระทรวง”
และภายใต้มาตราเดียวกัน “ผู้ประกอบธุรกิจ” หมายความว่า “ผู้จ าหน่าย ผู้ผลิตเพื่อจ าหน่าย ผู้สั่งหรือน าเข้า
มาในราชอาณาจักร เพื่อจ าหน่าย ผู้ซื้อเพื่อผลิตหรือจ าหน่ายต่อซึ่งสินค้า หรือผู้ให้บริการในธุรกิจ”
ความคลุมเครือเช่นนี้สามารถตีความได้สองลักษณะ ประการแรก เนื่องจากค านิยามไม่ได้ปฏิเสธอย่าง
ชัดแจ้งว่าชาวต่างชาติหรือการกระท าในต่างประเทศไม่อยู่ภายใต้การบังคับใช้ของ พ.ร.บ.การแข่งขันฯ พ.ศ.
2560 จึงท าให้อาจเป็นที่เข้าใจได้ว่าสามารถน า พ.ร.บ.การแข่งขันฯ พ.ศ. 2560 ไปบังคับใช้กับการกระท าที่
เกิดขึ้นนอกประเทศไทยซึ่งมีผลเป็นการลดการแข่งขันภายในประเทศไทย ดังนั้น การตีความ พ.ร.บ.การ
แข่งขันฯ พ.ศ. 2560 ในลักษณะนี้แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานการแข่งขันของประเทศไทยได้อาศัยหลัก
ผลกระทบ (effects doctrine) ในการบังคับใช้ พ.ร.บ.การแข่งขันฯ พ.ศ. 2560 นอกอาณาเขต การตีความที่
ยืดหยุ่นเช่นนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.การแข่งขันฯ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นความตั้งใจหลักของผู้ร่าง
นอกจากนี้ การจัดตั้งส านักงานการต่างประเทศของสขค. เองยังตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.การ
74
แข่งขันฯ พ.ศ. 2560 เพื่อแก้ไขผลร้ายที่เกิดขึ้นกับการแข่งขันข้ามพรมแดน
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่สอดคล้องกับการตีความกฎหมายไทยโดยทั่วไปซึ่งยึดหลักดินแดนเป็นหลัก
กฎหมายที่ตราในประเทศไทยจะมีผลบังคับใช้กับการกระท าที่เกิดขึ้นภายในอาณาเขตของประเทศไทยเพียง
เท่านั้น กล่าวคือ ‘หลักดินแดน’ เป็นกฎ ในขณะที่ ‘สิทธิสภาพนอกอาณาเขต’ นั้นเป็นข้อยกเว้น และเพื่อท า
ให้ข้อยกเว้นเป็นที่ยอมรับ สถานการณ์ที่จะท าให้ได้รับการยกเว้นจากกฎทั่วไปนั้นจะต้องมีการก าหนดไว้ใน
กฎหมายอย่างชัดแจ้ง ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างในกฎหมายอื่น ๆ ของประเทศไทย เช่น มาตรา 4 แห่งประมวล
กฎหมายอาญา ซึ่งบัญญัติกฎ ‘ดินแดน’ (territorial rule) ไว้ว่า “ผู้ใดกระท าความผิดในราชอาณาจักร ต้อง
รับโทษตามกฎหมาย” และในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่สะท้อนถึงการยอมรับหลัก
เขตอ านาจทางดินแดนที่เป็นภาวะวิสัย (objective territoriality) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า:
“ความผิดใดที่การกระท าแม้แต่ส่วนหนึ่งส่วนใดได้กระท าในราชอาณาจักรก็ดี ผลแห่งการกระท าเกิด
ในราชอาณาจักรโดยผู้กระท าประสงค์ให้ผลนั้นเกิดในราชอาณาจักร หรือ โดยลักษณะแห่งการกระท า
ผลที่เกิดขึ้นนั้นควรเกิดในราชอาณาจักรหรือย่อมจะเล็งเห็นได้ว่าผลนั้น จะเกิดในราชอาณาจักรก็ดี ให้
ถือว่าความผิดนั้นได้กระท าในราชอาณาจักร”
ในขณะเดียวกัน ความผิดซึ่งกระท าโดยสมบูรณ์นอกประเทศไทยแล้วจะสามารถลงโทษในประเทศ
ไทยได้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 7 และ 8 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ตัวอย่างเช่น
74 สัมภาษณ์ส านักงานการต่างประเทศ ส านักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า.