Page 40 - 22432_fulltext
P. 40

39



                                                   ส่วนที่ 6 บทสรุป


                       ถึงในปัจจุบันจะเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าลัทธิสิทธิสภาพนอกอาณาเขตนั้นได้พัฒนาในระบบ
               กฎหมายการเเข่งขันทางการค้ามานานหลายทศวรรษ ทว่าปัญหากรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจนั้นไม่มีสถานะทาง

               กฎหมายที่จดทะเบียนอยู่ในราชอาณาจักรยังคงเป็นความท้าทายส าหรับหลากหลายรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

               ความพยายามของรัฐในการรับมือพฤติกรรมต่อต้านการผูกขาดจากภายนอกประเทศซึ่งกระทบความเป็นไป

               ภายในประเทศนั้นพบสองประเด็นปัญหา ประการที่หนึ่ง คือ การไม่มีฐานทางกฎหมายในการบังคับใช้

               กฎหมายนอกอาณาเขต และประการที่สอง คือ ปัญหาการบังคับใช้ในสถานการณ์จริง นอกจากนี้ เศรษฐกิจ

               ขนาดเล็กที่ก าลังพัฒนายังพบปัญหาเฉพาะ นั่นคือข้อจ ากัดด้านทรัพยากรในการบังคับใช้ และความรับผิดที่

                                                                    107
               จ ากัดซึ่งไม่สามารถเป็นแรงคุกคามที่เพียงพอต่อบริษัทต่างชาติได้

                       นโยบายสนับสนุนการเเข่งขันโดยพื้นฐานถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องและสนับสนุนกลไกการเเข่งขันใน
               ตลาด การเเข่งขันนั้นไม่ใช่จุดจบ หากเเต่เป็นวิธีในการบรรลุจุดประสงค์สุดท้าย ดังนั้นการแข่งขันจึงถูกให้

               ความส าคัญในการเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการควบคุมและกระจายทรัพยากรในสังคม อีก

               ทั้งยังเป็นสิ่งที่สร้างระเบียบในตลาด อันเนื่องมาจากแรงกดดันของคู่แข่งและแรงผลักดันที่จะเป็นที่หนึ่งอยู่

               เสมอ ในขณะเดียวกัน ผู้คนยังอาจให้ค่ากับกลไกนี้ทางด้านการเมือง เเทนที่จะเป็นในด้านเศรษฐศาสตร์

               เนื่องจากสิ่งนี้กระจายความมั่งคั่งและโอกาสและจ ากัดขนาดของธุรกิจ  ในบริบทของสิทธิสภาพนอกอาณา
                                                                          108
               เขต เศรษฐกิจขนาดเล็กมีแนวโน้มที่ยากที่จะรับมือนโยบายสนับสนุนการแข่งขันซึ่งยอมสละประสิทธิภาพทาง

               เศรษฐกิจเพื่อแลกกับเป้าหมายที่ใหญ่กว่า เช่นความยุติธรรมในการแบ่งสรรปันส่วน (distributive justice)

               เมื่อประเด็นเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตนั้นเป็นเรื่องของระดับความมากน้อยตามที่แต่ละประเทศจะใช้

               หน่วยงานการแข่งขันฯ จึงมีอ านาจเด็ดขาดในการก าหนดระดับความมากน้อยที่ประเทศไทยจะใช้รับมือ
               พฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันขากต่างประเทศ รวมถึงการควบรวมกิจการในต่างประเทศ


                       เป็นที่เข้าใจได้ว่าท าไมประเทศที่เศรษฐกิจก าลังพัฒนาเช่นประเทศไทย เลือกที่จะให้ความสนใจในภัย

               ต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างน้อยในขณะจุดเริ่มต้นของระบบการแข่งขันในตลาดระบบใหม่ อย่างไรก็ตาม

               ระบบกฎหมายของประเทศไทยในปัจจุบันนั้นไม่ได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องพฤติกรรมการต่อต้านการเเข่งขันข้าม

               พรมแดนแม้เเต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังไม่มีเครื่องมือระดับพหุภาคีที่มีผลผูกพันที่สามารถน ามาใช้

               ประโยชน์ได้ในกรณีข้างต้น และความพยายามในการพัฒนาเครื่องมือที่ว่านี้ไม่เคยประสบความส าเร็จ ด้วยเหตุ

               นี้ งานวิจัยฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความจ าเป็นในการปรับปรุงระบบกฎหมายการเกี่ยวกับการเเข่งขันทางการค้า


               107  Michael Gal, “Extra-territorial application of antitrust - the case of a small economy (Israel),” (2009) New

               York University Law and Economics Working Papers.
               108  Philippe, Areeda and Herbert Hoven Kamp, Antitrust Law (2d edn 2000).
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45