Page 55 - 22432_fulltext
P. 55

54


               จูงใจ” ของศาลว่าเหมารวมถึงจุดมุ่งหมายของมาตรการลดหย่อนโทษหรือไม่ ในอดีตมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้

               ในคดีกฎหมายยาเสพติด ตามค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 6243/2554 ศาลได้ตัดสินไว้ว่าการที่เจ้าหน้าที่ต ารวจ

               บอกผู้ต้องหาเรื่องประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อบอกข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการจับกุมผู้กระท าความผิด ตามมาตรา

               100/2 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2522 นั้นไม่ถือว่าเป็น “แรงจูงใจ” แก่
                                                                                                149
                          148
               จ าเลยที่หนึ่ง  ดังนั้นพยานการให้การของจ าเลยที่หนึ่งต่อหน้าศาลจึงนับเป็นหลักฐานที่รับฟังได้  จากการ
                                                                                                  150
               ตีความของศาล จะเห็นได้ว่าศาลเห็นชอบให้หลักฐานที่เกิดขึ้นจากการแจ้งผลประโยชน์ทางกฎหมาย  ดังนั้น
               แล้ว การน ามาตรการลดหย่อนโทษมาปรับใช้ในประเทศไทยจึงสามารถท าได้โดยไม่กระทบต่อหลักฐานที่ได้รับ

               ตามที่ศาลไทยได้เห็นชอบไว้แล้วในคดีนี้


                       ประการที่สอง การค้นพบหลักฐานที่แน่นอนและน่าเชื่อถือนั่นเป็นไปได้ยากในคดีการตกลงร่วมกัน

               เนื่องจากผู้สมรู้ร่วมคิดโดยปกติจะซ่อนหลักฐานได้มิดชิด ดังนั้นประเด็นปัญหาถัดมาจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าศาล

               ยอมรับพยานแวดล้อม (Circumstantial Evidence) หรือไม่ เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าการพบพยานโดยตรง

               (Direct Evidence) เกิดขึ้นได้ยากมากในกรณีนี้ แตกต่างกับพยานหลักฐานด้านเศรษฐศาสตร์ (economic
               evidence) ที่พบได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะผ่านการกระท าของสมาชิกกลุ่มการตกลงร่วมกัน (conduct) หรือ

                                                  151
               พิจารณาผ่านโครงสร้างตลาด (structural)  ศาลในสหรัฐอเมริกายอมรับพยานแวดล้อมซึ่งเอื้ออ านวยต่อการ
               สืบสวน อีกทั้งยังน่าแปลกใจที่มีการใช้อย่างแพร่หลายจนปัจจุบันศาลต้องพยายามลดการใช้พยานหลักฐาน

               ประเภทดังกล่าวลง  ส าหรับประเทศไทยนั้น ยังไม่มีมาตราใดในประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญาซึ่ง
                               152
               ใช้พยานแวดล้อมโดยตรง นอกจากนั้น เนื่องจากศาลไทยยังไม่เคยตัดสินคดีการตกลงร่วมกันมาก่อน ท าให้ยิ่ง

               ยากในการบอกขอบเขตที่สามารถใช้หลักฐานประเภทนี้ได้ หากเมื่อพิจารณามาตรา 226 ซึ่งเกี่ยวกับ

               พยานหลักฐานในคดีอาญาทั่วไป บทบัญญัตินี้ระบุว่า “พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคลซึ่งน่าจะ

               พิสูจน์ได้ว่าจ าเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์” สามารถใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ ซึ่งมาตราได้ยอมรับรวมหลักฐานที่

               พึ่งพาความน่าจะเป็นโดยไม่ได้จ ากัดว่าต้องเป็นหลักฐานโดยตรงเท่านั้น การใช้ค านี้สามารถถือได้ว่า พยาน










               148  ดู พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2522 มาตรา 100/2.

               149  ดู ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 6243/2554.
               150  เข็มชัย ชุติวงศ์, ค าอธิบาย กฎหมายลักษณะพยาน, พิมพ์ครั้งที่ 9 (2556), กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จ ากัด, น. 285.

               151  AANZFTA, Competition Primers for ASEAN Judges (2018), p. 2 – 4.
               152  Leslie,  Christopher R. ,  The  Decline  and  Fall  of  Circumstantial Evidence  in  Antitrust  Law  ( 2020) ,
               p. 1714 – 1715.
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60