Page 41 - kpiebook62001
P. 41

การคอร์รัปชัน ที่เกิดในสวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายในกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐที่ท าหน้าเกี่ยวข้อง

               กับการเลือกผู้ได้รับสวัสดิการนั้นมีอ านาจในการเลือกสูงและไม่ต้องเผชิญการตรวจสอบ ในสภาพเช่นนี้ ตัวเจ้าหน้าที่รัฐก็
               อาจมีแรงจูงใจจะใช้อ านาจหน้าที่ตัวเองในดึงเอาทรัพยากรเข้าสู่ตนเอง ตัวอย่างเช่น หากการกระจายสวัสดิการแบบ

               เจาะจงที่คนจนใช้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้หารายชื่อคนยากจนมาให้รัฐช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่รัฐก็อาจใช้หน้าที่ดังกล่าวระบุชื่อ

               คนยากจนที่ไม่ได้มีอยู่จริงบางส่วนเพื่อดึงทรัพยากรไว้กับตนเอง หรืออาจไม่ได้กระจายทรัพยากรที่ได้รับมาไปสู่คน
               ยากจนทั้งหมด

                       การคอร์รัปชันทรัพยากรของสวัสดิการแบบเจาะจงนั้นเกิดขึ้นได้ในสัดส่วนที่สูง งานศึกษาของ Reinikka and

               Svensson (2004) ซึ่งส ารวจโครงการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กับโรงเรียนที่ยากจนในอูกันดาพบว่าทรัพยากรที่ถูก
               จัดสรรให้นั้นรั่วไหลไปสู่นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐสูงถึงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่งานศึกษาของ Asian

               Development Bank (2005) ที่ส ารวจนโยบายสวัสดิการแบบเจาะจงในอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน พบว่า

               โครงการในลักษณะอุดหนุนอาหารและสินเชื่อ (food and credit subsidy programs) รวมถึงโครงการอุดหนุนการ
               จ้างงานนั้น มักจะมีสัดส่วนการคอร์รัปชันสูง ตัวอย่างที่น่าตกใจก็เช่นโครงการจ้างงานคนจนในประเทศอินเดีย ซึ่งคนจน

               ได้รับประโยชน์เพียงแค่ประมาณหนึ่งในสี่ของงบประมาณทั้งหมดที่มุ่งหวังให้ไปช่วยสนับสนุนคนจน

                       การกระจายทรัพยากรให้พวกพ้อง การรั่วไหลของสวัสดิการแบบเจาะจงอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้มาจากสาเหตุ
               ของการคอร์รัปชันเสียทีเดียว แต่มาจากการที่ผู้ที่ทีอ านาจกระจายสวัสดิการเลือกจะให้สวัสดิการกับคนที่ใกล้ชิดกับ

               ตนเองก่อน ในกรณีของการกระจายทรัพยากรผ่านเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาเช่นนี้อาจมาจากการที่พวกเขาเลือกพื้นที่หรือ

               กลุ่มคนที่เป็นฐานอ านาจทางการเมืองของตนเองเป็นผู้ได้รับสวัสดิการ ตัวอย่างเช่น สวัสดิการแบบเจาะจงที่คนจนใน
               ฟิลิปปินส์นั้นมักจะได้รับอิทธิพลจากการตัดสินใจทางการเมือง โครงการ Care for the Poor ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เคย

               ด าเนินการในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 เพื่อช่วยตอบความต้องการพื้นฐานของคนจน มีสัดส่วนงบประมาณที่

               ผู้แทนราษฎรเข้ามาตัดสินใจสูงถึงสองในสาม (Balisacan et al., 2000).
                       ปัญหาการกระจายทรัพยากรให้พวกพ้องยังมักจะเกิดกับการเจาะจงสวัสดิการด้วยการใช้ชุมชนเป็นฐาน โดย

               งานศึกษาจ านวนมากพบว่าการใช้ชุมชนเป็นฐานการเลือกผู้ได้รับสวัสดิการมักจะหลีกเลี่ยงสภาพที่ผู้น าชุมชนมักจะเข้า

               มามีบทบาทตัดสินใจว่าใครควรจะเป็นผู้ได้รับสวัสดิการ ผลของการที่ผู้น าชุมชนเข้ามามีส่วนตัดสินใจนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้ง
               ในทางที่ดีและไม่มี งานศึกษาหลายชิ้นพบว่าผู้น าอาจตัดสินใจกระจายทรัพยากรไปให้กับคนที่ยากจนอยู่ดี (Mansuri

               2012) แต่กระนั้นก็ยังมีงานอีกจ านวนหนึ่งที่พบว่าในบริบทที่ชุมชนมีความเหลื่อมล้ าสูงและไม่มีกระบวนการตรวจสอบ

               ผู้น าท้องถิ่นที่ดีพอ ผู้น าก็มักจะตัดสินใจกระจายทรัพยากรสู่คนที่ใกล้ชิดก่อนและละเลยเป้าหมายการเจาะจงที่คนจนได้
               (Araujo et al. 2008, Conning and Kevane, 2000) นอกจจากนี้ อีกปัจจัยที่ควรค านึงถึงในกรณีของการกระจาย

               ทรัพยากรด้วยชุมชนก็คือหากการกระจายนั้น ๆ ใช้การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นกระบวนการตัดสินใจ ผลที่เกิดขึ้นก็

               อาจจะได้รับอิทธิพลจากการที่คนที่มีฐานะที่ดีกว่าในชุมชนนั้นมักจะมีโอกาสเข้ามีส่วนร่วมได้มากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้การ
               เจาะจงที่คนจนไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่เช่นกัน (Mansuri and Rao, 2003)




                                                               32
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46