Page 275 - kpiebook65010
P. 275
แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย
1.3 ข้อสังเกตเบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมในการทำ
RIA
มีข้อสังเกตก่อนที่จะกล่าวถึงคู่มือในหัวข้อถัดไปว่า หากพิจารณาเอกสารที่วางแนวทางและ
วิธีการทำ RIA ของ EU ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเอกสารที่มีการเผยแพร่ก่อนปี 2010
มักมีการจำแนกประเภท แนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมออกจากการวิเคราะห์
ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน โดยการจำแนกที่เพิ่งกล่าวไปนั้นก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อน
ให้เห็นว่าในช่วงทศวรรษก่อนยังมีแนวคิดการแยกการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมออกอย่างเป็น
เอกเทศ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเอกสารของ EU (รวมทั้งของ OECD) ซึ่งจะได้กล่าวในหัวข้อที่
3 ต่อไปจะพบว่าเอกสารที่มีการจัดทำหลังปี 2010 เป็นต้นมาไม่ได้มีการแยกแนวทางวิธีการ
วิเคราะห์ผลกระทบด้านสังคมอย่างเป็นเอกเทศอีกต่อไป ซึ่งอาจสะท้อนแนวคิดใหม่ว่าปัจจุบัน
ไม่มีความจำเป็นต้องแยกการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจออกจากกัน เพราะ
384
ในทางที่สุดผลกระทบทั้งสองด้านมักมีความเกี่ยวพันกันอย่างแน่นแฟ้น นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติ
ของการวิเคราะห์ผลกระทบในการทำ RIA นั้น จะเป็นการวิเคราะห์ข้อเสนอทางกฎหมายรายฉบับ
ซึ่งโดยสภาพย่อมไม่อาจจะทำการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมแต่เพียงด้านเดียวได้ โดยต้องคำนึง
ถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมรวมถึงผลกระทบหรือคำนึงถึงข้อพิจารณาด้านอื่น ๆ ไป
ในขณะเดียวกันด้วย ด้วยเหตุดังกล่าว จึงไม่ได้มีการจัดทำแนวทางการวิเคราะห์ผลกระทบแบบ
แยกส่วนอีก อย่างไรก็ดี เนื่องจากกรอบการนำเสนอในคู่มือนี้มุ่งพิจารณาแนวทางและวิธีการ
วิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมเป็นหลัก ดังนั้น การนำเสนอในประเด็นที่เกี่ยวข้องจะพยายาม
นำเสนอแนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบที่เน้นกล่าวถึงในมิติด้านสังคมให้มากที่สุดควบคู่
ไปกับการนำเสนอบทเรียนและแนวทางดำเนินการตามหลักสากลที่เป็นปัจจุบันให้มากที่สุด
384 เช่นเดียวกับที่จะเห็นแนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบของประเทศต่าง ๆ ในหัวข้อต่อไปซึ่งมีลักษณะ
เช่นเดียวกัน คือในปัจจุบันแทบจะไม่มีการแยกตัวอย่างแนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมออกจากด้าน
เศรษฐกิจอีกต่อไป เหตุผลหนึ่งน่าจะเนื่องมาจากฐานคิดของการทำ RIA ที่พยายามจะให้มีการวิเคราะห์ผลกระทบออกมา
เป็นตัวเลขให้มากที่สุดทำให้ในท้ายที่สุดมีความจำเป็นต้องนำหลักการวิเคราะห์ที่นิยมใช้ในทางเศรษฐกิจ เช่น
การวิเคราะห์แบบ cost-benefit analysis และ cost-effectiveness analysis เป็นต้น มาใช้ในการวิเคราะห์ด้านสังคม
ให้มากเท่าที่จะทำได้ ส่งผลให้ในแง่วิธีการวิเคราะห์ผลกระทบทั้งสองด้านไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญและ
ไม่มีความจำเป็นต้องแยกแนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบแต่ละประเภทอย่างเป็นเอกเทศ
สถาบันพระปกเกล้า
263