Page 72 - kpiebook65010
P. 72
แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย
ในส่วนที่ทำให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาที่ยั่งยืนกับกลไกการประเมิน
ผลกระทบนั้น อาจพิจารณาได้ว่า โดยลักษณะของกลไกการวิเคราะห์ผลกระทบที่จะต้องประเมิน
ผลกระทบแต่ละด้านประกอบกันก็จะเป็นการประเมินแบบองค์รวมที่เป็นหนทางหนึ่งของการพัฒนา
85
ที่ยั่งยืน นอกจากนี้ เนื่องจากโดยลักษณะพื้นฐานของ RIA ที่เป็นการประเมินผลกระทบต่อ
หลายภาคส่วนอย่างเป็นกิจจะลักษณะและมีลักษณะเป็นการประเมินแบบบูรณาการ (integrated
policy appraisal) ย่อมมีส่วนทำให้มีบุคคลหรือผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสะท้อนปัญหา
หรือร่วมกันในกระบวนการมากยิ่งขึ้น โดยนัยดังกล่าวนี้ย่อมส่งผลให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม
ในการตัดสินใจของรัฐซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนตามไปด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่า
86
RIA เป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความโปร่งใสตรวจสอบได้ของการตัดสินใจของรัฐในระดับ
นโยบาย นอกเหนือจากการตัดสินใจในระดับโครงการซึ่งปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทย
มีกฎหมายเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมรองรับอย่างชัดเจน
มีข้อสังเกตประการหนึ่งว่า หากพิจารณาเอกสารที่วางแนวทางและวิธีการทำ RIA ของ
EU ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเอกสารที่มีการเผยแพร่ก่อนปี 2010 มักมีการจำแนก
ประเภท แนวทางและวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมออกจากการวิเคราะห์ผลกระทบทาง
เศรษฐกิจอย่างชัดเจน โดยการจำแนกที่เพิ่งกล่าวไปนั้นก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าในช่วง
ทศวรรษก่อนยังมีแนวคิดการแยกการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมออกอย่างเป็นเอกเทศ อย่างไร
ก็ตาม หากพิจารณาเอกสารของ EU (รวมทั้งของ OECD) ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปจะพบว่าเอกสารที่มี
การจัดทำหลังปี 2010 เป็นต้นมาไม่ได้มีการแยกแนวทางวิธีการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสังคม
อย่างเป็นเอกเทศอีกต่อไป ซึ่งอาจสะท้อนแนวคิดใหม่ว่าปัจจุบันไม่มีความจำเป็นต้องแยก
การวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจออกจากกัน เพราะในทางที่สุดผลกระทบทั้งสอง
85 Duncan Russel and John Turnpenny ‘The Politics of Sustainable Development in UK
Government: What Role for Integrated Policy Appraisal?’ (2009) 27 Environment and Planning C:
Politics and Space 340, 341.
86 ibid.
ที่ว่าการสร้างกลไกการมีส่วนร่วมถือเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นก็เนื่องจาก
หากพิจารณาหลักการที่ 10 และหลักการที่ 4 ของปฏิญญาริโอประกอบกันจะพบข้อความคิดสำคัญเกี่ยวกับความสำคัญ
ของการมีส่วนร่วมสาธารณะ สรุปใจความได้ว่ารัฐมีหน้าที่จัดให้มีกลไกการมีส่วนร่วมสาธารณะ (participation of all
concerned citizens) ในทุกระดับในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งร่วมถึงการมีส่วนร่วมในแง่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (access to
information) และการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของรัฐที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน (participation in decision-
making process)
สถาบันพระปกเกล้า
60