Page 97 - kpiebook65010
P. 97
แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย
ขั้นตอนที่ การดำเนินการ
3 เลือกว่าจะทำการวิเคราะห์แบบดุลภาพบางส่วนหรือแบบดุลภาพทั่วไป (partial or general equilibrium
analysis)*
การเลือกแนวทางวิเคราะห์จะขึ้นอยู่กับขนาดของผลกระทบ ซึ่งจำเป็นต้องตัดสินใจเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการที่เกิน
จำเป็น (เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น) โดยอาจพิจารณาจากการตั้งคำถามดังต่อไปนี้
๏ ปัญหาที่จะทำการวิเคราะห์ส่งผลกระทบต่อหลายตลาดหรือเพียงตลาดเดียว และส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
และผลกระทบสะสมใช่หรือไม่
๏ ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจใช่หรือไม่
หากคำตอบต่อทั้งสองคำถามคือใช่ ในกรณีนี้ควรต้องทำการวิเคราะห์แบบดุลภาพทั่วไปแต่หากปรากฏว่าผลกระทบ
ที่จะเกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบเพียงไม่กี่ตลาดหรือบางภาคเศรษฐกิจและส่งผลกระทบส่วนใหญ่ในรูปของผลกระทบทาง
ตรงต่อผู้มีส่วนได้เสียหรือก่อให้เกิดผลกระทบทางอ้อมหรือผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคอย่างจำกัด เช่นนี้สามารถ
ทำการวิเคราะห์แบบดุลภาพบางส่วนได้
4 คำนวณต้นทุนโดยตรงที่เกิดขึ้นโดยตีมูลค่าเป็นเงิน (monetize direct costs) โดยคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้
๏ ค่าใช้จ่ายโดยตรง (direct charges) ตกแก่ผู้มีส่วนได้เสียหรือกลุ่มทางสังคมบางกลุ่มหรือไม่
๏ ต้นทุนการปฏิบัติตามมาตรการ (compliance costs) ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงภาระที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎเกณฑ์
(administrative burdens) หรือไม่
๏ มีต้นทุนการบังคับการให้เป็นไปตามมาตรการ (enforcement costs) ใดเกิดขึ้นบ้างหรือไม่
5 คำนวณผลประโยชน์โดยตรงที่เกิดขึ้นโดยตีมูลค่าเป็นเงิน (monetize direct benefits)
โดยคำนึงถึงว่ามีการลดลงของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามกฎหมาย (regulatory charges)
บังคับการตามกฎหมาย (enforcement costs) หรือปฏิบัติตามกฎหมาย (compliance costs) บ้างหรือไม่
นอกจากนี้ควรมีการคำนวณมูลค่าของประสิทธิภาพของตลาดที่เพิ่มขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ (เช่นมูลค่าของ ส่วนเพิ่ม
ผู้บริโภค (consumer surplus) ส่วนเพิ่มผู้ผลิต (producer surplus) และการสูญเสียที่ตกแก่ส่วนรวมจากกลไก
ที่ขาดประสิทธิภาพ (deadweight loss) รวมทั้งประเมินมูลค่าของ non-market benefit เช่น มูลค่าเพิ่มด้าน
สุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
6 การประเมินผลกระทบทางอ้อม โดยพิจารณาจากคำถามต่อไปนี้
๏ มีต้นทุนทางอ้อมที่มีนัยสำคัญใดเกิดขึ้นหรือไม่
๏ มีประโยชน์ทางอ้อมใดที่เกิดขึ้นหรือไม่
๏ มีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถคำนวณมูลค่าใดเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน ความแน่นอนของ
สถานะทางกฎหมาย การลดลงของการฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นต้น
7 ทำการพิจารณาว่าต้นทุนและผลประโยชน์ทั้งหลายที่มีการวิเคราะห์ไปนั้นเกิดขึ้นในช่วงใดของการดำเนินนโยบาย
หรือกฎหมายโดยคำนึงถึงการแปลงอัตราคิดลดของสังคม (social discounting) เพื่อกำหนดมูลค่าสุทธิในปัจจุบัน
* ความแตกต่างของลักษณะการวิเคราะห์ทั้งสองประเภทอยู่ที่ขอบเขตของตลาด (market) และปัจจัยที่
เกี่ยวข้องในการวิเคราะห์โดยการวิเคราะแบบดุลภาพบางส่วนมีขอบแขตการวิเคราะห์ที่แคบและเจาะจงกว่า รายละเอียด
การอธิบายการวิเคราะห์แบบดุลภาพบางส่วนและดุลภาพทั่วไปดูเพิ่มเติมที่ Michael R. Thomsen, ‘Partial vs.
General Equilibrium Models’ <https://socialsci.libretexts.org/Bookshelves/Economics/Book%3A_
An_Interactive_Text_for_Food_and_Agricult ural_Marketing_(Thomsen)/04%3A_Market_Equilibrium_
and_Equilibrium_Modeling/4.04%3A_Section_4-> เข้าถึงเมื่อ 9 กันยายน 2564.
สถาบันพระปกเกล้า
85