Page 124 - kpiebook65020
P. 124

85

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


               ในหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว หรืออาจมีผลให้มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นรวมถึงอาจมีการเพิ่มก าลังคนใน
               ภาครัฐ ซึ่งเป็นต้นทุนที่รัฐต้องแบกรับมากขึ้นแต่อาจไม่คุ้มกับผลตอบแทน

                              ประการที่สาม การตรากฎหมายหรือกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ ไม่สอดคล้องกับบริบทความ
               เปลี่ยนแปลงทางสังคม ตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ... ซึ่งมีเนื้อหาไม่สอดคล้องกับความต้องการ

               ของคนในสังคมที่เป็นคนรักหลากหลายทางเพศ เพราะไม่ได้มอบสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรสให้เท่าเทียมกับ
               คู่สมรสชาย-หญิง หรือการที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ... ไม่ครอบคลุมลูกจ้างในงานบางประเภท

                              การแก้ปัญหาบางเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมจึงไม่จ าเป็นต้องตราเป็นกฎหมายทุกกรณี บางกรณี
               อาจใช้วิธีการออก “นโยบาย” อย่างใดอย่างหนึ่งมาใช้แก้ปัญหาก็ได้ หากนโยบายเหล่านั้นไม่สามารถแก้ปัญหา
               ได้จึงค่อยตรากฎหมายออกมาเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาแทน

                              ประการที่สี่ กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
               กฎหมายฉบับนั้น ๆ มีการใช้อ านาจที่ได้รับจากกฎหมายดังกล่าว ในการแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองหรือ

               ผู้อื่น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการบังคับ
               ใช้กฎหมาย เป็นต้น

                              จากปัญหาทั้ง 4 ประการ การ “วิจัย” จึงเป็นเครื่องมือส าคัญในการแก้ปัญหาข้างต้นได้อย่าง
               ชัดเจน เพราะสามารถก าหนดปัญหาพร้อมกับหาแนวทางในการแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ต้น แต่สิ่งที่ส าคัญไม่แพ้กัน

               กับการวิจัย คือ “การมีส่วนร่วมของประชาชน” ในทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็น การร่างกฎหมาย การบังคับ
               ใช้กฎหมาย หรือแม้กระทั่งการตีความกฎหมาย เพราะการที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนเหล่านี้ จะ
               ส่งผลให้เกิดความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย ส่งผลให้กฎหมายนั้นได้รับการยอมรับจากตัว
               ประชาชนเอง และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย

                              กระบวนการที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย การ

               ตีความกฎหมายที่ดีนั้น จะต้องปรากฏว่ากระบวนทั้งหลายเหล่านั้น เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
               มีการรับฟังเสียงของประชาชน โปร่งใส ตรวจสอบได้

                              นอกจากนี้แล้ว การรับฟังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่หรือ
               แม้กระทั่งการไม่กีดกันกลุ่มผลประโยชน์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในรัฐสภาก็เป็นการลดผลกระทบเชิงลบของ
               กฎหมายต่อสังคมได้เช่นกัน



                                                                                         128
               2.5 รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย (การจัดท า Checklist)

                       การตรวจสอบความจ าเป็นและการวิเคราะห์ผลกระทบ (Regulatory  Impact  Analysis  หรือ RIA)
               เป็นเครื่องมือส าคัญในการพัฒนาคุณภาพของกฎหมาย และเป็นการยกระดับการตรากฎหมายของรัฐ โดยใช้
               วิธีการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ข้อมูล และข้อเท็จจริง





               128
                  ข้อมูลในหัวข้อนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากนางสาวใจใส วงส์พิเชษฐ นักกฎหมายกฤษฎีกา กองพัฒนากฎหมาย ส านักงาน
               คณะกรรมการกฤษฎีกา
   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129