Page 52 - kpiebook65020
P. 52
13
รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”
(2) ด าเนินการผ่านกฎ (Rule-based implementation)
การด าเนินการผ่านกฎเป็นการออกกฎที่ก าหนดวัตถุประสงค์และผลลัพธ์ไว้อย่าง
ละเอียด เช่น การออกหนังสือคู่มือ (Guideline) ที่ระบุผลลัพธ์ที่รัฐต้องการและอาจมีข้อแนะน าในการ
ด าเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้การด าเนินการลักษณะนี้จะไม่มีความยืดหยุ่นเท่าการด าเนินการผ่าน
ตลาด แต่มีข้อดีคือช่วยให้เอกชนสามารถท าตามกฎได้ง่ายเนื่องจากกฎมีความชัดเจน ธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เล่น
ใหม่ในตลาดสามารถประเมินได้ว่าอย่างแน่นอนว่าท าบรรลุวัตถุประสงค์ตามกฎแล้วหรือไม่
ข้อดีของการออกกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของการด าเนินงานที่นอกเหนือจากการ
ลดความรุนแรงในการแทรกแซงและเปิดโอกาสให้เอกชนใช้เสรีภาพในการด าเนินกิจการของตนแล้ว ยังเป็น
วิธีการที่ช่วยส่งเสริมให้เอกชนมีแรงกระตุ้นในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อลดต้นทุนในการด าเนินการ
ให้ได้ผลลัพธ์ตามที่รัฐต้องการ ข้อดีนี้ยังน าไปสู่ข้อสังเกตที่ว่ากฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของการด าเนินงานนั้น
เป็นรูปแบบการควบคุมที่เหมาะสมกับตลาดที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
16
และรัฐอาจไม่สามารถออกกฎก ากับเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ทัน แต่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่รัฐต้องการได้ อย่างไร
ก็ตาม รัฐควรค านึงถึงโครงสร้างของผู้เล่นในตลาดก่อนด าเนินการออกกฎในลักษณะเช่นนี้ เพราะการก าหนด
ผลการด าเนินงานอาจไม่ได้สร้างภาระเพิ่มเติมให้ผู้เล่นรายใหญ่แต่อาจสร้างต้นทุนมหาศาลให้กับผู้เล่นรายย่อย
การออกกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของการด าเนินงานจึงอาจจะเป็นการจ ากัดการแข่งขันและสร้างอุปสรรคใน
การเข้าร่วมตลาดของผู้เล่นรายใหม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วการออกกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของการ
ด าเนินงานนั้นอาจไม่ใช่การออกกฎที่สามารถใช้ได้กับทุกกรณี เนื่องจากอาจมีบางกรณีที่รัฐไม่สามารถวัดผล
การด าเนินงานออกมาเป็นตัวเลขหรือผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ และรัฐยังต้องค านึงถึงต้นทุนที่ต้องใช้ในการ
ด าเนินการตรวจสอบผลลัพธ์ที่ก าหนดไว้ เช่น การเข้าตรวจโรงงาน อีกด้วย
(3) กฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับกระบวนการ (Process-based Regulation)
กฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับกระบวนการ คือ การออกกฎควบคุมสิ่งที่น าเข้า (input)
สู่กระบวนการ หรือควบคุมขั้นตอนกระบวนการโดยตรง เช่น ข้อก าหนดมาตรฐานเครื่องจักรในโรงงาน
(ควบคุมสิ่งที่น าเข้า) หรือข้อก าหนดมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงาน (ควบคุมขั้นตอนกระบวนการโดยตรง)
โดยกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับกระบวนการอาจใช้กับกรณีที่ไม่สามารถออกกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของการ
ด าเนินงานได้ เนื่องจากผลลัพธ์มีความซับซ้อน ไม่สามารถวัดและค านวณออกกมาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการ
ก าหนดข้อบังคับที่ขึ้นกับกระบวนการจึงสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แม่นย ามากกว่า กฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่
17
กับกระบวนการจึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลในตลาด โดยเฉพาะในกรณีที่ราคา
และคุณภาพของสินค้าและการบริการในตลาดไม่สามารถบ่งบอกต้นทุนของกระบวนการผลิตได้ เช่น ในธุรกิจ
นวดแผนไทย อาจมีกฎข้อบังคับให้ผู้นวดใช้น้ ามันที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแล้วเท่านั้น
การอออกกฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับกระบวนการในลักษณะนี้เกิดขึ้นเพราะการก าหนดผลลัพธ์ในการนวด เช่น
สุขภาพของผู้ได้รับการนวดนั้นวัดและประเมินค่าออกมาได้ยาก จึงไม่สามารถใช้กฎข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับผลของ
การด าเนินงานได้ นอกจากนี้ ผู้รับบริการนวดอาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของน้ ามันนวดได้
16
Ibid.
17
Form http://www.dpac.tas.gov.au/__data/assets/pdf_file/0015/121137/18_Canadaassessing_reg_alte
rnatives_e.PDF, pp.80.