Page 57 - kpiebook65020
P. 57

18

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


               ในปัจจุบัน ยังไม่มีระบบหรือเทคนิคใดเข้ามาช่วยให้ต้นทุนทั้งหมดในการออกกฎสามารถถูกค านวณออกมาได้
                                                                            24
               ทั้งหมดแต่อย่างไรก็ดีต้นทุนในการออกกฎก็ควรจะรวมถึงต้นทุนดังต่อไปนี้
                              (1)  ต้นทุนในงบประมาณ (On-budget  Costs) ต้นทุนในงบประมาณคือต้นทุนที่ใช้ในการ
               ด าเนินการจัดการออกกฎรวมไปถึงต้นทุนที่องค์กรควบคุมดูแลกฎหมายใช้ในการจัดจ้างลูกจ้างในการ

               ด าเนินการ ซึ่งต้นทุนในงบประมาณนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและความพร้อมของหน่วยงานที่ต้องออกกฎใน
               ขณะนั้น เช่น ต้นทุนในการพัฒนาก าลังคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการออกกฎ หรือ ต้นทุนใน
               การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก รวมไปถึง ต้นทุนในการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการออกกฎ ในกรณี
               หน่วยงานไม่เคยส ารวจหรือเก็บข้อมูลที่จ าเป็นในการออกกฎไว้หรือจ าเป็นต้องจ้างบริษัทเอกชนเพื่อเก็บข้อมูล

                              (2)  ต้นทุนในการท าตามกฎหมาย (Compliance  Costs) ต้นทุนในการท าตามกฎหมายคือ

               ต้นทุนของผู้อยู่ใต้บังคับของกฎ ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ผู้มีส่วนร่วมบางกลุ่มหรือองค์กรของรรัฐเอง ในการท า
               ตามกฎ เช่น ต้นทุนในการขอใบอนุญาตตามกฎหมาย ต้นทุนในการเตรียมเอกสารเพื่อจดทะเบียน หรือ
               แม้กระทั่งการท าตามข้อบังคับของกฎหมายหลักหรือข้อบังคับทางปกครองต่าง  ๆ ซึ่งแม้จะไม่ใช่ต้นทุนที่
               สามารถเปลี่ยนมาเป็นจ านวนเงินได้ชันเจนก็ล้วนแต่เป็นต้นทุนในการท าตามกฎหมายเช่นกัน

                              (3)  ต้นทุนทางอ้อม (Indirect  Costs) ซึ่งถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสในการน าทรัพยากรที่ใช้ใน

               การออกกฎไปท าประโยชน์อื่น ๆ ต้นทุนในการออกกฎเหล่านี้รวมไปถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ของ
               ประชาชนต่อการใช้งบประมาณด้วย

                              นอกจากต้นทุนทั้งสามที่ได้กล่าวมาในข้างต้นแล้ว การออกกฎในแต่ละครั้งอาจยังมีต้นทุน
               อื่น ๆ ทั้งที่สามารถค านวนเป็นตัวเงินได้ชัดเจนและต้นทุนที่ไม่สามารถค านวนเป็นตัวเงินได้ชัดเจน ในการออก
               กฎแต่ละครั้งผู้ออกกฎจ าเป็นต้องค านึงถึงต้นทุนในการออกกฎเองด้วย ในบางครั้งเมื่อการออกกฎมีต้นทุนที่สูง

               มาก การออกกฎเพื่อแก้ปัญหาอาจส่งผลร้ายและสร้างภาระให้ประชาชนต้องแบกรับมากกว่าเดิม

                              2.1.1.5 ภาวะกฎล้มเหลว (Regulatory Failure)

                              แม้ว่าการเข้าไปแทรกแซงของรัฐไม่ว่าจะด้วยการออกกฎหรือใช้เครื่องมือในการควบคุมจะ
               ช่วยแก้สภาวะตลาดล้มเหลว ก็ไม่ได้หมายความว่าการเข้าแทรกแซงจะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง ยิ่งไปกว่า
               นั้นการออกฎหรือการแทรกแซงของรัฐเองอาจก่อให้เกิดปัญหาใหม่ตามมา โดยการแทรกแซงหรือการออกกฎ
               ที่ก่อให้เกิดผลร้ายเรียกว่า ภาวะกฎล้มเหลว (Regulatory Failure)

                              ค าว่า “ภาวะกฎล้มเหลว”  จะกล่าวถึงภาวะที่การอออกกฎน าไปสู่ปัญหาหรือเกิดผลร้าย
                                                                                                25
               ตามแต่ แต่ก็ไม่มีค านิยามที่ชัดเจนแน่นอนว่าสภาวะแบบใดบางที่จัดว่าเป็นภาวะกฎล้มเหลว   นั่นเป็น
               เพราะว่าภาวะกฎล้มเหลวนั้นสามารถเกิดได้จากหลายหลายรูปแบบและจากหลากหลายปัจจัย  อาจเกิดได้ใน
               ขั้นการระบุปัญหาที่ผิดพลาด การตัดสินใจเลือกรูปแบบการออกกฎที่ผิดพลาดไปจนถึงปัญหาของการจัดสรร
               งบประมาณและการบังคับใช้ที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีตามที่ผู้ออกกฎตั้งใจไว้ อย่างไรก็ตาม มีการพยายามจัดรูปแบบ



               24
                  Yesim Yilmaz, “Private Regulation: A Real Alternative for Regulatory Reform,” Cato Policy Analysis No.
               303 (1998) p.3.
               25
                   Martin  Lodge,  “Managing  Regulatory  Failures,”  London  School  of  Economics,  (2015) accessed  11
               September 2020, from https://www.lse.ac.uk/accounting/assets/CARR/documents/Regulators-Forum/4.pdf.
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62