Page 60 - kpiebook65020
P. 60

21

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


                                                    32
                              จากการศึกษาของ OECD การผ่อนคลายกฎเป็นนโยบายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่ม
               ประเทศ OECD ในทศวรรษ 1980 โดยเฉพาะในตลาดอุตสาหกรรมและแรงงาน การผ่อนคลายกฎในทศวรรษ
               1980 เป็นการตอบสนองต่อนโยบายการแทรกแซงตลาดอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลตลอดทศวรรษ 1970 ทั้งการ
               ควบคุมราคาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายตลาดเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ การแทรกแซงตลาดของ

               รัฐถูกมองว่าเป็นสาเหตุหลักของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้า กฎและกฎหมายถูกมองว่าเป็น
               เครื่องมือหลักที่จ ากัดการท างานของกลไกตลาดและสร้างเงื่อนไขทางเศรษฐกิจเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโต
               ทางเศรษฐกิจ การผ่อนคลายกฎจึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในตลาดที่โดนแทรกแซงมานาน รวมไปถึง

               จัดสรรทรัพยากรกลับไปสู่ตลาดและภาคเอกชน ประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้การน าของประธานาธิบดีโรนัลด์
               เรแกน เป็นประเทศแรกที่เปลี่ยนแนวคิดจาการแทรกแซงและเข้าควบคุมตลาดด้วยกฎที่เคร่งครัดมาสู่แนวคิด
               การผ่อนคลายกฎและปล่อยกลไกตลาดท างานโดยรัฐไม่ยื่นมือเข้าไปแทรกแซง ก่อนประเทศทางยุโรป
               โดยเฉพาะอังกฤษในสมัยของนายกรัฐมนตรี มากาเรต์ เทรชเชอร์ จะเปลี่ยนแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน
               ดังนั้นแล้ว แนวคิดการผ่อนคลายกฎ จึงเป็นแนวคิดใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็น

               ต้นมา

                              แนวคิดการผ่อนคลายกฎที่เกิดขึ้นในยุโรปและอเมริกาในทศวรรษ 1970 นั้นเป็นการ
               เปลี่ยนแปลงแนวคิดและความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของรัฐต่อระบบสังคมและเศรษฐกิจ การเกิดขึ้นและการ
               พัฒนาที่ก้าวกระโดดของแนวคิดนี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย นอกจากปัจจัยทางการเติบโตที่เชื่องช้าของเศรษฐกิจ

               ที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ยังเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของรัฐที่ลดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับกลุ่มธุรกิจผู้มี
               ส่วนได้เสียบางกลุ่มลง ท าให้รัฐสามารถบทบาทในการเข้าไปแทรกแซงและควบคุมตลาดลงได้ นอกจากนี้แล้ว
               เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในศตวรรษ 1980 ยังส่งผลให้รัฐไม่สามารถออกกฎเข้าไปก ากับควบคุม
               ตลาดได้อย่างสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง ท าให้ประสิทธิภาพในตลาดลดลง ส่งผลให้ทั้งรัฐและเอกชนต่าง

               เห็นพ้องกันในการลดการแทรกแซงและควบคุมโดยรัฐในตลาดเพื่อปล่อยให้เอกชนได้เข้ามาด าเนินการในตลาด
               ด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ในสหภาพยุโรป การเปิดตลาดการค้าร่วมกันในสหภาพ (common  market)  ยัง
               ส่งเสริมให้ทุกประเทศรวมกันลดกฎและลดการแทรกแซงในตลาดร่วมลงเพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม
               ระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิก

                              2.1.2.3 ปัญหาที่น าไปสู่การผ่อนคลายกฎ

                              แม้ว่าแนวคิดการผ่อนคลายกฎนั้นจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงแนวคิดของรัฐบาลใน

               ศตวรรษ 1980 แต่ในทางทฤษฎีการผ่อนคลายกฎนั้นจ าเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความไร้ประสิทธิภาพที่
                                                                                                33
               อยู่ในการด าเนินการออกและบังคับกฎอยู่แล้ว โดยปัญหาที่อาจน าไปสู่การผ่อนคลายกฎมีดังต่อไปนี้
                              ปัญหาประการแรก คือ ปัญหาด้านข้อมูล ในโลกที่เศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น
               การเข้าถึงข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นนอกจากจะเป็นไปได้ยากแล้วยังอาจมีต้นทุนที่ผู้ต้องการทราบ
               ข้อมูลต้องแบกรับสูง อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความไม่ครบถ้วนของข้อมูลหรือได้รับข้อมูลที่มีอคติ ดังนั้นจึงเป็นไป

               ได้ยากที่การออกกฎเพื่อควบคุมแทรกแซงจะตั้งอยู่บนฐานที่ว่าผู้ออกกฎมีข้อมูลครบถ้วนก่อนออกแบบและ


               32
                   Alberto  Pera,  “Deregulation  and  Privatisation  in  an  Economy-Wide  Context,”  OECD,  accessed  11
               September 2020, from http://www.oecd.org/economy/reform/35381774.pdf.
               33  Ibid.
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65