Page 72 - kpiebook65020
P. 72

33

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


                              (6) ก าหนดแนวทางในการประเมินตรวจสอบ

                                     หลังเปรียบเทียบทางเลือกและตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดออกมาได้แล้ว การ
               จัดท า RIA ควรระบุต่อไปถึงวิธีการตรวจสอบผลลัพธ์จากการด าเนินการตามตัวเลือกดังกล่าวในอนาคต ซึ่งขั้น
               ตอนนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมายที่จะกล่าวถึงในกลุ่มวิชาที่ 4

                       2.1.4. แนวทางการจัดท า RIA ของ OECD และต่างประเทศ

                              ในหัวข้อนี้ เป็นการอธิบายแนวทางการจัดท า RIA  ของ OECD  ซึ่งเป็นต้นแบบของประเทศ

               ต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย ตลอดจนอธิบายทางการจัดท า RIA  ของประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่
               ก าลังพัฒนาตามล าดับ

                              2.1.4.1 แนวทางของ OECD
                                                            56
                              จากคู่มือการจัดท า RIA ของ OECD  แนวทางการจัดท า RIA มีรากฐานมาจากความเข้าใจ
               เกี่ยวกับสวัสดิการสาธารณะ (Social  Welfare)  โดยการออกกฎนั้นจะสามารถกระท าได้หากเป็นการเพิ่ม

               ประโยชน์สาธารณะของทุกคนในสังคมแทนที่จะเป็นการเพิ่มประโยชน์ให้กับคนเพียงบางกลุ่ม ดังนั้นแล้วการ
               ออกกฎจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าการออกกฎนั้นจะให้ประโยชน์กับสังคมมากกว่าสร้างต้นทุนให้
               ประชาชนหรือไม่  แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดการจัดท าการวิเคราะห์ต้นทุน (Cost-Benefit
               Analysis)  โดย OECD  มองว่าแนวคิดการวิเคราะห์ต้นทุนนั้นไม่จ าเป็นต้องหมายรวมถึงเทคนิคทาง

               เศรษฐศาสตร์ในการวิเคราะห์ต้นทุน แต่เป็นเพียงแนวคิดที่ว่าการออกกฎใด ๆ จะกระท าได้หากประโยชน์ต่อ
               สังคมมากกว่าต้นทุนเท่านั้น หากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสาธารณะประโยชน์จะเพิ่มขึ้นจากการออกกฎ ผู้ออก
               กฎควรงดเว้นจากการออกกฎนั้น ยิ่งไปกว่านั้น การออกกฎโดยไม่ค านึงถึงหลักการวิเคราะห์ต้นทุนอาจเกิด
               ความเสี่ยงว่ากฎที่ออกไปแล้วสร้างต้นทุนให้กับสังคมซึ่งในบางครั้งต้นทุนดังกล่าวไม่ใช่ต้นทุนที่ปรากฎออกมา

               ชัดเจน อาจเป็นต้นทุนเพียงเล็กน้อยที่ทุกคนในสังคมต้องแบกรับแต่หากรวมกันแล้วก็จะกลายเป็นต้นทุน
               จ านวนมหาศาล การค านึงถึงต้นทุนและผลประโยชน์ของกฎอยู่ตลอดจึงเป็นการป้องกันสังคมจากความเสี่ยง
               ในการแบกรับต้นทุนในการด าเนินชีวิตด้วย นอกจาก OECD  จะส่งเสริมแนวคิดวิเคราะห์ต้นทุนแล้ว
               ยังสนับสนุนการใช้เทคนิควิเคราะห์ต้นทุนเป็นเครื่องมือในการค านวณหาประโยชน์และต้นทุน รวมไปถึง

               คัดเลือกนโยบายที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาในสังคมอีกด้วย โดย OECD  มองว่า เทคนิควิเคราะห์ต้นทุนเป็น
               “best practice” หรือแนวทางตัวอย่างในการจัดท า RIA เนื่องจากเทคนิคนี้จะช่วยให้ผู้ออกกฎมีหลักฐานเชิง
               ประจักษ์และรอบด้านถึงต้นทุนและประโยชน์ในการออกกฎใด ๆ

                              OECD  ระบุว่าขั้นตอนในการจัดท า RIA  นั้นสามารถแบ่งได้เป็นสองขั้นใหญ่ นั้นคือ ขึ้น
               ประเมินความจ าเป็นในการออกกฎหมายและขั้นประเมินความคุ้มค่าของกฎหมายเมื่อได้เปรียบเทียบ

               ผลกระทบของกฎหมายกับนโยบายทางเลือกอื่น ๆ เพื่อน าไปสู่การตัดสินใจว่าทางเลือกใดจะมีประสิทธิภาพ
               สูงสุด โดย OECD มีข้อเสนอในการวางแผนการจัดท า RIA เป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้

                              1.  ก าหนดความหมายและวัตถุประสงค์ของนโยบาย โดยการก าหนดความหมายและ
               วัตถุประสงค์ ควรมีการศึกษาถึงปัญหาและสภาพแวดล้อมของปัญหาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะมีการก าหนด



               56
                   OECD,  “Introductory  Handbook  for  Undertaking  Regulatory  Impact  Analysis  (RIA),”  OECD,  (2008)
               accessed 11 September 2020, from  https://www.oecd.org/gov/regulatory-policy/44789472.pdf.
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77