Page 87 - kpiebook65020
P. 87
48
รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”
เศรษฐศาสตร์จึงต้องการศึกษาหาวิธีที่ท าให้กฎหมายไม่ได้เป็นข้อจ ากัดแต่ส่งเสริมให้ผู้คนในสังคมสามารถท า
ตามเหตุผลและเพิ่มอรรถประโยชน์ให้ตัวเองได้
2.2.2 การน าความรู้ทางเศรษฐศาสตร์มาวิเคราะห์และประเมินความจ าเป็นในการตรากฎหมาย
ในส่วนนี้จะเป็นการน าแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ในส่วนแรกมาปรับใช้เพื่อวิเคราะห์และประเมินความ
จ าเป็นในการตรากฎหมาย สิ่งที่ส าคัญในการปรับใช้แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์คือการเปลี่ยนมุมมองต่อ
กฎหมาย โดยกฎหมายเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ใช้ในการด ารงชีวิตในสังคม กฎหมายจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพและ
อรรถประโยชน์ให้กับผู้ที่ต้องใช้กฎหมาย
ตัวอย่าง ปัญหาเพื่อนบ้านส่งเสียงดัง
นาย ก และ นาย ข เป็นเพื่อนบ้านกัน โดยบ้านของนาย ก ใช้เครื่องจักรโรงน้ าแข็งก่อให้เกิดเสียงดัง
ร าคาญแก่นาย ข กฎหมายควรเข้ามาช่วยแก้ไขกรณีวิวาทระหว่างนาย ก และ นาย ข อย่างไร
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่า ผู้ออกกฎด้วยทั่วไปอาจเลือกออกกฎหมายห้ามส่งเสียงดังรบกวนเพื่อน
บ้านในหมู่บ้าน โดยอาจจะก าหนดความดังในหน่วยเดซิเบลที่มากที่สุดไว้ หากมีการออกกฎเช่นนี้ออกมาเพื่อ
แก้ปัญหานาย ก อาจจะต้องย้ายออกไปจากหมู่บ้านเพื่อไปด าเนินธุรกิจโรงน้ าแข็งต่อไปหรือ นาย ก อาจจะ
ต้องล้มเลิกโรงน้ าแข็งเพื่อที่จะสามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านรวมกับเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ต่อไปได้ จะเห็นได้ว่าการ
ออกกฎห้ามส่งเสียงดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางลบและสร้างภาระให้กับธุรกิจของนาย ก เป็นอันมาก ใน
ขณะเดียวกันหากกฎหมายที่ออกมาไม่สามารถแก้ปัญหาเสียงจากโรงน้ าแข็งได้เพราะมลภาวะทางเสียงจาก
เครื่องจักร แม้จะท าให้นาย ข เกิดความร าคาญ แต่ก็ยังไม่เกินกว่าจ านวนเดซิเบลที่กฎหมายก าหนด ดังนั้น
กฎหมายที่ออกมาจึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาระหว่างนาย ก กับ นาย ข ได้ เพราะตัวกฎหมายนั้นไม่สอดคล้อง
กับความเข้าใจของคนในหมู่บ้าน กรณีนี้จะท าเป็นภาวะกฎล้มเหลวเพราะการออกกฎไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ซ้ ายังอาจท าให้นาย ค ที่จะเข้ามาเปิดร้านอาหารพร้อมลานดนตรีสดไม่สามารถเข้ามาเปิดกิจการในหมู่บ้านได้
เพราะอาจส่งเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายก าหนด ก่อให้เกิดเป็นค่าเสียโอกาสกับนาย ค และ คนในหมู่บ้านจะ
เสียโอกาสในการมีร้านอาหารที่ดีพร้อมการแสดงดนตรีภายในหมู่บ้านของตน จะเห็นได้ว่าการออกกฎห้าม
กระท าการใด ๆ ล้วนเป็นการสร้างภาระและต้นทุนให้กับคนกลุ่มในกลุ่มหนึ่งในสังคมเสมอ
อย่างไรก็ตามหากลองใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาวิเคราะห์จะพบว่าภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น
จากโรงน้ าแข็งถือเป็นผลกระทบภายนอกทางลบที่ไม่ได้รวมอยู่ในต้นทุนในการผลิตน้ าแข็งของนาย ก และ
เป็นผลกระทบที่ส่งผลต่อบุคคลที่สามนั่นคือนาย ข เนื่องจากนาย ข ไม่ได้เป็นผู้มีส่วนร่วมเป็นผู้ผลิตหรือ
ผู้บริโภคในธุรกิจขายน้ าแข็งของนาย ก อย่างไรก็ตามหากคิดจากหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบ
ภายนอกที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าเกิดภาวะตลาดล้มเหลว ทางแก้ภาวะตลาดล้มเหลวในลักษณะนี้คือการท าให้
ราคาของมลพิษทางเสียงที่เกิดขึ้นเข้าไปรวมอยู่กับต้นทุนในการผลิตน้ าแข็งของนาย ข นาย ข จะได้รับผิดชอบ
ถึงต้นทุนที่แท้จริงในการผลิตของตน ค าถามที่ตามมาคือจะต้องออกกฎหมายลักษณะใดจึงจะสามารถแก้ไข
ปัญหาผลกระทบภายนอกทางลบได้