Page 126 - kpiebook65037
P. 126
125
มีลักษณะของการกีดกันและเบียดบังให้รสนิยมอย่างอื่นๆ แม้แต่เรื่อง
เสรีภาพให้เหือดหายไปด้วย ผู้คนซึ่งถูกครอบง�าโดยความปรารถนา
อันรุนแรงต่อความสะดวกสบายทางกายจะรู้สึกว่าความวุ่นวายอันเกิด
จากเสรีภาพเป็นสิ่งซึ่งรบกวนความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา และเพราะ
ใส่ใจกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ มากจนเกินไป พวกเขาจึงเข้าใจผิดไปว่า
ความไร้ระเบียบและ “ความขัดแย้งกันในทางการเมือง” ที่มาพร้อมๆ กับ
เสรีภาพทางการเมืองคือ “อนาธิปไตย” และเพราะฉะนั้น พวกเขา
จึงพร้อมที่ยอมทิ้งเสรีภาพของตนไปในทันทีที่เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น
ในบ้านเมือง ในขณะที่หลักการส�าคัญของประชาธิปไตยอยู่ที่ว่าเสียงข้างมาก
คือ องค์อธิปัตย์ แต่ดูเหมือนว่าเสียงข้างมากไม่อาจเป็นพลเมืองที่ดีได้
การหมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาความสุขทางกายในที่สุดแล้วได้น�าไปสู่
ความล่มสลายของการเป็นพลเมือง (สมบัติ จันทรวงศ์, 2555, น. 30 – 31)
การแสวงหาตัวตนของมนุษย์และการมี “วิถีชีวิตแบบของตนเอง” คือ
สิ่งที่ผู้คนในสังคมประชาธิปไตยสามารถกระท�าได้อย่างอิสระเสรีกว่า
ยุคใดๆ เช่น เรื่องของการแต่งงาน อาจกล่าวได้ว่าในทางปฏิบัติแล้วไม่มี
ข้อจ�ากัดใดๆ ตามจารีตประเพณีหลงเหลืออยู่ได้โดยที่ไม่ถูกตั้งค�าถาม
อีกต่อไป แม้แต่ความเชื่อที่ว่าการแต่งงานหรือชีวิตสมรสเป็นเรื่องปกติ
ที่กระท�ากันก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นใน
ความสัมพันธ์แบบความรักเชิงชู้สาว ปัจเจกบุคคลแต่ละคนจึงเป็น
เสมือนหนึ่ง “รัฐอิสระ” ที่มีความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้เฉพาะบนฐานของ
การเจรจาต่อรองและท�าข้อตกลงของผู้ที่เท่าเทียมกันเท่านั้น เงื่อนไขส�าคัญ
ส�าหรับการเจรจาต่อรองดังกล่าวอยู่ที่ว่าคู่กรณีจะต้องปลอดจากกรอบ
ระเบียบอื่นใดนอกจากความปรารถนาของตัวปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง
แม้แต่ความพึงพอใจต่อความสุขที่เข้มข้นรุนแรงเฉพาะหน้าชั่วครู่ชั่ว
ยามก็ไม่มีอะไรเสียหายในตัวของมันเองตราบเท่าที่มันเป็นความพอใจ
หรือเสมอภาคของทุกฝ่าย เพราะฉะนั้น แทนที่ความปรารถนาทางเพศ